ราคารวม : ฿ 0.00
ขอความเจริญในพระสัทธรรมจงบังเกิดมีแด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน
ไีฟสำคัญที่เรียกกันว่า “ไฟประลัยกัลป์” ไฟประลัยกัลป์นี้เราพูดถึง “ไฟนรก” ไฟประลัยกัลป์เป็นไฟนรกที่ไม่เคยดับ มันเผาไหม้ ในความจริง “กิเลส” เป็นไฟประลัยกัลป์ ซึ่งไปเสริมไฟประลัยกัลป์และนำพาไปสู่แดนที่มีไฟประลัยกัลป์
องค์สมเด็จพระทรงธรรม์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสเตือนเอาไว้ว่า....
“โก นุ หาโส กิมานนฺโท นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ อนฺธกาเรน โอนทฺธา ปทีปํ น คเวสถ.”
(โก นุ หาโส กิมานันโท นิจจัง ปัชชะลิเต สะติ อันธะกาเรนะ โอนัทธา ปะทีปัง นะ คะเวสะถะ.)
อาตมาแปลอย่างนี้....
เมื่อโลกนี้มีไฟเผาไหม้อยู่
ไฟเพราะผู้กิเลสกล้าอวดก๋ากั่น
--ไฟอะไรทำให้มันก๋ากั่นไปข่มเหงรังแกเขา
ไฟราคะไฟโทสะประลัยกัลป์
ถึงฆ่าฟันล้างเผ่าดูเอาเอง
--ทุกวันนี้ไม่น่าเชื่อ คนยังฆ่าฟันล้างเผ่าพันธุ์กัน ดูเอาเอง
ไฟภายในแผดเผาเราเป็นนิตย์
ไฟทิฏฐิคนอื่นชั่วตัว ดี – เก่ง
--เราก็โทษคนอื่นชั่วทั้งนั้น ตัวเองดีตัวเองเก่ง คนดีเราก็ว่าชั่วถ้าเราเป็นคนชั่ว
ไฟโลภโมห์โทสันร่วมบรรเลง
ไยไม่เกรงกลัวบ้างหรืออย่างไร
--เราไม่เกรงกลัวกันเลยกับไฟที่เผาอยู่ทุกวันนี้ ไม่เกรงกลัวเพราะเรามองไม่เห็น เขาเรียก “ไฟเย็น” แต่นั่นคือไฟที่ร้อน มีใครที่มีความสุขสักคน อาตมาเห็นมันไหม้ออกหน้าออกตา สิ้นสง่าราศี มองเห็นอยู่ทุกวัน เห็นในโทรทัศน์ทุกวัน จากคนมีราศีกลายเป็นคนมีราคี
จงสะทกยกจิตพิจารณา
อนัตตาวิปัสสนาพาสดใส
ดับความร้อนที่เผารุมสุมภายใน
จะพ้นภัยไฟกิเลสวิเศษแล.
จงดับไฟกิเลสเสีย ดับทีละกอง ๆ ๆ แล้วมันก็หายไปหมด นั่นแหละคือความวิเศษ ความวิเศษไม่ผุด ถ้าความวิสุทธิ์ไม่เกิด ไฟไม่ดับเมื่อไรเราก็ยังร้อนรุ่มอยู่อย่างนั้นตลอดไป ตายแล้วก็ไปตกในไฟประลัยกัลป์อันเป็นไฟนรก แล้วก็พวกที่ทำกิเลสร่วมกันก็จะตกนรกไปเจอกัน คราวนี้ก็จะไปห้ำหั่นกัน ทุกข์ร้อนก็จะช่วยกันไม่ได้
พระเทพปฏิภาณวาที
“เจ้าคุณพิพิธ”
This website stores cookies to improve your website experience
Including allowing us to provide proposals Promotional activities Choose the content that suits you personally
Write comment