ราคารวม : ฿ 0.00
ชีวิตของคนเรานี้ก็วนเวียนอยู่ในแวดวงดงกิเลส เรียกว่า “กิเลสวัฏฏ์” ซึ่งเกิดขึ้นในใจของตนเองกับเกิดขึ้นกับคนที่ตนเองเนียนัวพัวพันอยู่ ที่เรียกว่า...คบคนเช่นใดก็เป็นคนเช่นนั้น... คนอื่นที่ไม่เหมือนตน ตนเองก็ไม่คบ ตนเองก็เฝ้าชื่นชมกับคนที่มีกิเลสเช่นเดียวกันว่าพวกตนนั้น เก่ง กล้า สามารถ ปราดเปรื่อง ลูกน้องโจรก็เทิดทูนความสามารถของหัวหน้าโจร ซึ่งมีความสามานย์อยู่พร้อมมูล หัวหน้าโจรก็ชื่นชมลูกน้องโจรว่า เก่ง ดี มีเชาว์ปัญญา แต่ในขณะที่ทุกคนในกองโจรกำลังชื่นชมซึ่งกันและกันอย่างจอมปลอม ใจของลูกน้องก็คิดล้มหัวหน้าโจร ส่วนใจของโจรก็คิดหวาดระแวงลูกน้องว่าอาจจะวัดรอยเท้า ต่างคนต่างก็จ้องสังหารจ้องผลาญกันเอง นี่คือผลของบุคคลที่ตกอยู่ในกิเลสวัฏฏ์
ส่วนชีวิตของคนที่อยู่ในคลองแห่งสัมมาทิฏฐิ เห็นภัยของกิเลสวัฏฏ์ ก็เข้าหาบัณฑิต หมั่นฟังธรรมคำสอนจากบัณฑิต นำคำสอนนั้นมาพิจารณากับจิตและพฤติกรรมตนเอง เมื่อเห็นว่าจิตใจและพฤติกรรมของตนเองกำลังดำเนินเข้าสู่กิเลสวัฏฏ์ ก็ขจัดเสียด้วยการฝึกฝนให้เข้าถึงหลักแห่งไตรลักษณ์ คือ เห็นว่าสังขารทั้งหลายทั้งปวง (รูป และ นาม) ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่มีความยึดครองเป็นเจ้าของได้เลย หัวหน้าแห่งบัณฑิตผู้เจริญด้วยคุณธรรม ย่อมได้รับการยกย่อง กราบไหว้ บูชา จากศิษยาศานุศิษย์อย่างจริงใจ ทั้งหัวหน้าแห่งบัณฑิตเอง ก็ชื่นชมว่าศิษยาศานุศิษย์นั้นได้ปฏิบัติตนเวียนออกจากกระแสกิเลสวัฏฏ์ ไม่มีการช่วงชิงและปราศจากความหวาดระแวง
ปวงสัตว์ทั้งหลายในยุคโลกาภิวัตน์ กำลังตกอยู่ในกระแสแห่งกิเลสวัฏฏ์ สั่งสมความอยากซึ่งเรียกว่า “ตัณหา” คือ....
อยากกินอาหารดี ๆ
อยากมียศศักดิ์
อยากรักษาสถานภาพ
อยากให้คนกราบไหว้
อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่
อยากขยายอิทธิพล
อยากให้ผู้คนรับฟัง
อยากมีสตางค์มาก ๆ
อยากดัง
อยากเด่น
อยากเข่นคู่แข่ง
ฯลฯ
ความอยากเหล่านี้มีอยู่มาก แต่ใครจะรู้ว่านั่นคือตัวตัณหา แล้วเจ้าตัวตัณหาก็เข้าครอบงำใจให้เหตุผลที่ย้อมใจให้ยอมเชื่อ ดุจเด็กหัวอ่อน ปัญญาอ่อน ติดกาม ติดเกม ติดสถานเริงรมย์ จมอยู่ในการพนัน พัวพันอบายมุข แล้วเด็กก็โงหัวไม่ขึ้น กลายเป็นทาสอบายมุข ก็คือ จมลงในกิเลสวัฏฏ์นั่นเอง
ทางความเป็นอยู่ การเมืองทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มือสั้น มือยาว มือมืด มือที่มองไม่เห็น มือที่พร้อมชุบแล้วเปิบ มือสังหาร ล้วนแล้วแต่ถูกสั่งจากใจที่โกหกพกลมด้วยอำนาจ ตัณหาที่โกหกตัวเองโกหกคนทั้งหลาย ด้วยคำว่า...รักชาติ กู้ชาติ จงรักภักดี พิทักษ์คุณธรรม... ส่วนพวกที่เป็นผู้ร่วมพรรค ร่วมพวก ร่วมพล ก็ล้วนแล้วแต่....
เชื่อฟัง
ไร้ความยั้งคิด
เห็นผิดเป็นชอบ
ถูกครอบงำด้วยอามิส
คิดอยากมีตำแหน่ง
ทำกันไปเถอะ อ้างกันไปเถอะ โกหกกันไปเถอะ วันใดวันหนึ่งทุกคนทุกฝ่ายลองหาเวลาว่าง ๆ สัก ๑ วัน นอนในที่สงบสงัด ตัดใจจากพวกพ้องเงินทอง พิจารณาถึงสิ่งที่ตนเองทำลงไปในวันเวลาที่ผ่านมา จะเกิดความเศร้าใจว่า...เราทำไปเพื่ออะไร เราทำไปได้อย่างไร?... ความน่าขบขันในพฤติกรรมวันก่อนนั้น จะผันกลับมาเป็นความเสียใจเศร้าใจซึ่งก็แก้ไขไม่ได้ แต่ครั้นลุกขึ้นมาก็เดินกลับเข้าสู่วงเวียนกิเลสวัฏฏ์อีก คนโกงเล่ห์มากกว่าคนสุจริตฉันใด มิจฉาทิฏฐิก็มีเหตุผลมากกว่าสัมมาทิฏฐิ ฉันนั้น.
พระเทพปฏิภาณวาที
"เจ้าคุณพิพิธ"
ขอบคุณเจ้าของภาพ
Share :
Write comment