ตอนที่ 13 : เที่ยว สตูล ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช

สตูล ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช

(เดินทางระหว่าง 26 กุมภาพันธ์ –2 มีนาคม 2562)

By: รณยุทธ์ จิตรดอน

ในคราวไปเที่ยวอุทยานธรณีโลกสตูล (Satun Geopark) ระหว่าง 26-28 กุมภาพันธ์ ได้ไปทั้ง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตารุเตา และ อุทยานหมู่เกาะเภตรา อ่าวฟอสซิล และ ปราสาทหินพันยอด อุทยานธรณีสตูลมีขนาดกว้างขวางมาก ครอบคลุมถึง 4 อำเภอ คือ ทุ่งหว้า มะนัง ละงู และเมืองนั้น เป็นพื้นที่ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน

เขตข้ามเวลามีความสำคัญทางธรณีวิทยา คือ เป็นบริเวณที่พบรอยสัมผัสของหินที่มีอายุแตกต่างกัน 2 ยุค คือหินทรายสีแดงยุคแคมเบรียนอายุประมาณ 541-485 ล้านปี และหินปูนยุคออร์โดวิเชียนอายุประมาณ 485-444 ล้านปี

รอยสัมผัสเกิดจากการเลื่อนตัวของเปลือกโลก โดยสามารถมองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าเพราะสีที่แตกต่างกันระหว่าง 2 ยุค นับเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยากและเสมือนว่าสามารถก้าวย่างข้ามกาลเวลาจากยุคแคมเบรียนไปสู่ยุคออร์โดวิเชียนได้เพียงก้าวเดียว และมองออกทะเลก็จะเห็นเกาะตารุเตาตั้งอยู่เบื้องหน้า และที่อยู่ด้านหลังคือเกาะลังกาวี เขตมาเลเซีย

UNESCO ขึ้นทะเบียนมรดกโลก 3 ประเภท คือ

1.World Heritage ที่เรามักทราบกันทั่วไปบ้านเราก็ขึ้นทะเบียน มรดกโลกทางประวัติศาสตร์ 3 แห่ง และ ทางธรรมชาติ 2 แห่ง

2.Biospheres ที่อุทยานธรณีไม้กลายเป็นหินที่ 5 อำเภอ นครราชสีมากำลังขอขึ้นบัญชีมรดกโลกอยู่

3.Geopark ในเขต 4 อำเภอของสตูล โดยเฉพาะอุทยานหมู่เกาะเภตรา ได้ขึ้นทะเบียนธรณีโลกแล้ว มีความโดดเด่นทางธรณีวิทยา คือ เป็นบันทึกหลักฐานของโลกใต้ทะเลเมื่อ 500 ล้านปีก่อน

ถนนเลียบหาดปากบาราซึ่งเริ่มต้นจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ไปลงเรือ speedboat 2 เครื่องยนต์ที่ท่าเรือปากบาราไปกลุ่มเกาะอุทยานแห่งชาติตารุเตา เกาะแรกที่ไปแวะ คือ เกาะไข่ และซุ้มรักนิรันดร์ จากเกาะไข่ไปต่อ เกาะอาดัง ขาเดินทางหมู่เกาะอุทยานธรณีสตูลคลื่นลมแรง แม้แต่ละเกาะจะไม่ห่างจากกันต่อกันไป เกาะราวี เพื่อทานข้าวกลางวันเป็นข้าวกะเพรากุ้ง ไข่ดาว ซื้อไก่ทอดทีขายบนเกาะมาเพิ่ม ที่นี่อุทยานแห่งชาติตารุเคาจัดให้มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำให้ และเดินทางออกจากเกาะ 13:00 น.

เกาะที่อยู่ในช่องทางน้ำหินมาถมกันอยู่เต็มเกาะ ถึงกระนั้นก็มีป้ายสาปแช่งนักท่องเที่ยวที่เก็บหินออกไป หรือเอาหินมาเรียงก็ไม่ได้

บนเกาะที่มีชีวิตชีวามากที่สุด คือ เกาะหลีเป๊ะ บนถนนคนเดินได้แวะดื่มชาชักกันคนละแก้ว ถึงเวลากลับขึ้นบกก็เวลาล่วงเลยเกือบ 16:00 น แล้ว

เริ่มต้นวันใหม่ ไปลงเรือของวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวที่แหลมเต๊ะปัน (ติดกับท่าเรือปากบารา) เนื่องจากคณะมี 20 คน จึงแบ่งนั่ง 2 ลำ และจะมีเรือแคนนูพ่วงไป ลำละอีก 2 ลำ (เพื่อใช้ลงเรือไปดูปราสาทหินพันยอด)จุดแรกที่แวะไปอ่าวฟอสซิล และกลับมาแวะทานอาหารว่างที่หาดเขาใหญ่

การเข้าไปดูปราสาทหินพันยอด จะถ่ายลงเรือแคนนูลำละ 2 คน ผ่านลอดอุโมงค์เข้าไปภายในเป็นหุบเล็กๆทีมียอดหินแหลมขึ้นไปเป็นจำนวนมาก จึงเรียกว่า ปราสาทหินพันยอด ภายในบริเวณนี้ยังปรากฎฟอสซิลปลาหมึกโบราณที่ค่อนข้างสมบูรณ์ด้วย

ก่อนกลับขึ้นฝั่งได้แวะที่แนวทรายที่แบ่งพื้นน้ำ เป็นทะเลแหวก หรือ “ หลังมังกร”

แวะกลับเข้ามาทานก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ แกรนด์ อันดามัน รีสอร์ต ก่อนแยกย้ายกันกลับ แยกขึ้นรถขึ้นมาตรัง โดยอีกจุดที่แวะ คือ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ซึ่งขณะนี้ ทั้งอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเกาะลิบง (ได้พบพยูนในบริเวณนี้ 200 ตัว) และหมู่เกาะอ่างทอง กำลังขอขึ้นทะเบียน มรดกอาเซียน ด้านหน้าของอุทยานเป็น เขาแบนะ (กำลังถ่ายทำภาพยนตร์”เคว้ง”อยู่) และด้านหลังเขาแบนะ ก็เป็นถ้ำมรกต ที่ขึ้นชื่อของตรัง และถัดมาตามแนวถนนเลียบทะเลเข้าตรัง จะเห็นเกาะลิบงอยู่ไกลออกไป และตรงบริเวณหน้า หาดปากเมง จะเห็น เกาะเมง อยู่นอกหาด

ความสวยงามของแนวชายหาดปากเมง ตามแนวถนนจะเป็นอุโมงค์ต้นสน ตลอดแนวชายหาด มีบริเวณโรงแรม 5 ดาว ที่ศาลฎีกาพิพากษาบุกรุกเขตอุทยาน จึงกำลังรื้อถอนอยู่โรงแรมนี้ ตั้งอยู่หน้าหาดปากเมง ซึ่งที่ตั้งสวยงามสามารถดูพระอาทิตย์ตกดินได้ดีที่สุดแห่งหนึ่ง

วันนี้จะข้ามจากฝั่งอันดามัน (ตรัง) ไปฝั่งอ่าวไทย (พัทลุง) ถึงแม้จะทาน American breakfast แล้วก็อดไม่ได้ต้องแวะทานหมูย่างและโรตีที่พงษ์โอชา จึงได้เริ่มออกจากตรัง ทางผ่านมีบ้านนาหมื่นศรีจัดทำบ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนทั้งลูกลม ตำนาน ถ้ำเขาช้างหาย และ ชุมชนทอผ้านาหมื่นศรี

ลองมาตามดูว่าทำไม พัทลุงจึงได้รับการกล่าวขวัญจากนิตยสารการท่องเที่ยวระดับ”Lonely Planet” จึงยกให้พัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยงที่น่าจับตามอง สูงสุด ในปี 2519 จุดแรกที่หยุดเข้าไปเยือนบนเส้นทางเขาพับผ้า คือ วัดถ้ำสุมะโน

เมื่อผ่านเข้าเมืองพัทลุงก็แวะไปกราบหลวงปู่ทวดที่ วัดคูหาสวรรค์ พระอารามหลวงแห่งแรกของจังหวัดพัทลุง และบนเส้นทางที่จะผ่านไปทะเลน้อยก็มี วังเจ้าเมืองพัทลุง (ทั้งเก่าและใหม่)

บนเส้นทางเลียบทะเลสาบสงขลาและทะเลน้อย มี บ้านปากประ ที่มีรีสอร์ตและร้านอาหารรสดี ทั้งยำปลาลูกเบล่ น้ำพริกปลาลูกเบล่ ต้มกระทิสายบัวกุ้ง และทอดมันปลากราย ผลไม้มีแตงโมกับสัปปะรด

ต่อไปถึงอำเภอควนขนุน มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ชื่อ นาโปแก ที่แสดงวิถีทำนาตามแบบคนพัทลุง จะมีเยาวชนมาเรียนรู้วิถีทำการเกษตรมากในแต่ละวัน และนำผลิตผลการเกษตรและผลิตภัณฑ์ OTOP มาขาย จ่ายเงินที่เสียเบี้ย

จากอำเภอควนขนุน ผ่าน ทะเลน้อย พัทลุง เป็นจุดเชื่อมต่อ 3 จังหวัด คือ พัทลุง สงขลา และ นครศรีธรรมราช โดยใช้เส้นทางสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งจะเห็นควายน้ำกำลังหากินอยู่ในบริเวณทะเลสาบตลอดทาง โดยจะมุ่งหน้าเข้านครศรีธรรมราชเพื่อสักการะพระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

พระบรมธาตุประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธองค์ เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของภูมิภาค เพราะเมื่อสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชครองอาณาจักรตามพรลิงค์ มีรัฐบริวารตั้งแต่ชุมพร ลงไปถึงกลันตัง ตรังกานู ถึง 12 รัฐด้วยกัน ดังที่ปรากฏในตราประจำจังหวัดเป็นนักษัตรทั้ง 12 นักษัตร และตามแนวถนนราชดำเนินผ่านหน้าพระบรมธาตุปรากฎ 12 นักษัตรประดับบนเสาไฟส่องสว่างตลอดทาง

ตรงข้ามวัดพระมหาธาตุ เป็นที่ตั้งของอาคารบ้านไทยที่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถานิกสยาม

มื้อเย็นทานข้าวที่ร้านครัวนายหนัง มีการแสดงหนังตะลุง ทุกวัน 12:00-13:30 น. 19:30-22:00 น. และ 2:00-3:00 น.

หมู่บ้านคีรีวง ชุมชนที่เป็นวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง นอกจากมีทั้งมังคุดคีรีวง ที่ขึ้นชื่อ ยังมีการแปรรูปผลไม้ทุเรียนกวนห่อใบหมาก ขายให้นักท่องเที่ยวเขียนภาพสีลงบนผืนผ้า ทำเสื้อผ้าสำเร็จรูปขายในชุมชน เมื่อเก็บมังคุดซึ่งมีเป็นจำนวนมากได้แล้วก็จะเอาใส่เข่งบนมอเตอร์ไซด์ออกมาจากสวนให้ผู้ขายส่งในหมู่บ้านอีกทีหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจว่า บ้านคีรีวง อ.ลานสกา นครศรีธรรมราช นอกจากจะมี ”อากาศดีที่สุดในประเทศไทย” แล้วจึงเริ่มมีรีสอร์ตหรูๆ หรือโรงแรมเริ่มเข้าไปเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น

จากหมู่บ้านคีรีวง ซึ่งกำลังดีวันดีคืน ใช้เส้นทาง 401 ขึ้นไป อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ อำเภอขนอม ต่อเนื่องอำเภอสิชล ด้วยเหตุที่นอกชายฝั่งเป็นที่อยู่ของปลาโลมาสีชมพู นอกจากนักท่องเที่ยวจะมาเล่นน้ำในเขตชายหาดตามแนวไหล่เขา แล้วยังต่อเนื่องถึงหาดเขาพลายดำ เมื่อถนนที่กำลังบูรณะตามไหล่เขาเสร็จแล้วจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงพื้นที่ที่สวยงามได้สะดวกยิ่งขึ้น