ตอนที่ 11 : เที่ยว เลย หนองคาย อุดรธานี

เลย หนองคาย อุดรธานี

(เดินทางระหว่าง 12-13 กุมภาพันธ์ 2562)

By: รณยุทธ์  จิตรดอน

      เลย  มีอุทยานแห่งชาติที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตตลอดกาล นั่นคือ ภูกระดึง ที่แม้จะต้องเดินขึ้นเขากว่า 5 กิโลเมตร และเดินทางราบบนภูต่ออีกหลายกิโลเมตร กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง แต่ก็เป็นความท้าทายของหลายคนที่ต้องการจะพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเก็บไว้ในความทรงจำว่า ‘ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตยอดภูกระดึง’

ชมธรรมชาติอันบริสุทธิ์และทิวทัศน์ที่สวยงามจากจุดชมวิวตามหน้าผาต่างๆ อาทิ  ผาหล่มสัก จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุด ผานกแอ่น จุดชมทะเลหมอกและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมาก นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวอื่นๆ เช่น ผาเหยียบเมฆ ผาหมากดูก ผาแดง เป็นต้น มี สระอโนดาต และน้ำตกหลายแห่งให้ชม ซึ่งล้วนแล้วแต่งดงาม อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์

     ลงจากภูกระดึงมุ่งหน้าไปยังด่านซ้าย ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและประเพณี ที่ทุกคนจะต้องนึกถึง พระธาตุศรีสองรัก และ ศิลปะพื้นบ้าน ผีตาโขน ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของอำเภอด่านซ้ายเลยทีเดียว

     พระธาตุศรีสองรัก โบราณสถานอายุกว่า 500 ปี สักขีพยานแห่งมิตรภาพไทย-ลาว ร่วมงานบุญพื้นบ้านอีสาน งานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ซึ่งจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือนหกของทุกปี (ประมาณเดือนพฤษภาคม)

     ศิลปะพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวด่านซ้ายที่ไม่เหมือนใคร ผีตาโขน เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญหลวงและงานบุญบั้งไฟรวมกันเป็น งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน จัดขึ้นในในช่วงเดือนเจ็ด (เดือนมิถุนายน) ของทุกปี ที่ วัดโพนชัย ซึ่งภายในวัดยังมี พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน จัดแสดงประวัติวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ หุ่นผีตาโขน และสาธิตวิธีการทำหน้ากากผีตาโขน รวมทั้งมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับผีตาโขนอีกด้วย

     วัดเนรมิตวิปัสสนา โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมศิลาแลงของสิ่งปลูกสร้างภายในวัด งดงามราวเนรมิต

     จากด่านซ้ายกลับมายังภูเรือ มีวัดที่น่าสนใจให้เยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดอีกหลายแห่ง อาทิ วัดป่าห้วยลาด และ วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางขึ้น อุทยานแห่งชาติภูเรือ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าหนาวที่สุดในประเทศ ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผาโหล่นน้อย ชมป่าสน ดอกไม้ป่าและลานหิน  

     วัดป่าห้วยลาด เป็นศาสนสถานอีกแห่งหนึ่งที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมและประติมากรรมอันวิจิตรงดงาม ให้ชม

     วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง เป็นวัดที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงพระราชทานเงินซื้อที่ดินสร้างวัด ตั้งอยู่บนเขาทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ มีพระอุโบสถแวดล้อมด้วยวิหารรายทั้งสี่ทิศ ทุกหลังสร้างด้วยไม้แกะสลักลวดลายประณีตงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยหินหยกแม่น้ำโขง

     เชียงคาน เมืองเล็กริมแม่น้ำโขงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเชียงคานได้เป็นอย่างดี ถนนคนเดินเชียงคาน นอกจากมีอาหาร สินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อ ยังมี เรือนไม้อายุกว่า 100 ปี ให้ชม ในยามเช้ามี การตักบาตรข้าวเหนียว ตามประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ

     มีวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดท่าคก ซึ่งเจ้าเมืองเชียงคานได้ออกอุบายสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2395 เพื่อกันพื้นที่เอาไว้ไม่ให้ถูกฝรั่งเศสรุกล้ำดินแดนจากการล่าอาณานิคม

     นอกจากนี้เมื่อออกนอกตัวเมืองเชียงคานไปยังมีจุดชมธรรมชาติที่สวยงามบนเขา ภูทอก  ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า อีกทั้งยังเห็นทิวทัศน์เมืองเชียงคาน แม่น้ำโขงและฝั่งลาวจากมุมสูงด้วย

     นอกจากจุดชมทิวทัศน์บนเขา จากภูทอกมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือตามถนนหมายเลข 211 ยังมีจุดชมทิวทัศน์บนพื้นราบที่ แก่งคุ้ดคู้ ซึ่งเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำ

     เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ คือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน มีโค้งสันทรายริมแม่น้ำ สามารถเดินลงไม่ชมแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด และมีบริการเช่าเรือยนต์ล่องแม่น้ำโขง ใช้เวลาไปกลับประมาณ 1 ชม.

     จากแก่งคุดคู้ยังคงใช้ทางหลวงหมายเลข 211 ซึ่งตัดเลียบแม่น้ำโขงจากอำเภอเชียงคานไปจนถึงหนองคาย โดยเกือบตลอดเส้นทางสามารถชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงได้

     หนองคาย เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงยาวที่สุดในประเทศไทย มี Sky Walk ทางเดินกระจกใสที่ยื่นจากหน้าผาออกไป 6 เมตร ที่ วัดผาตากเสื้อ เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน และเป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่สร้าง Sky Walk โดยใช้กระจกใส ในช่วงหน้าหนาวจะเห็นทะเลหมอกสุดอลังการ ส่วนหน้าแล้งช่วงน้ำลดจะเห็นสันทรายเป็นริ้วคล้ายเกล็ดพญานาค เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าพิศวง พ้องกับความเชื่อเรื่องพญานาคที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวไทยอีสานริมโขงมายาวนาน

     จากวัดผาตากเสื้อ ย้อนกลับไปทางอำเภอสังคม ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2376 เข้าสู่อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เพื่อไปยัง วัดป่าภูก้อน พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติ งดงามอลังการท่ามกลางธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท แหล่งโบราณคดีที่มีความสืบเนื่องยาวนานจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องสู่ยุคประวัติศาสตร์ โดยมีร่องรอยมนุษย์ยุคยุคก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏในรูปของภาพเขียนสีตามเพิงหินหลายแห่ง ซึ่งต่อมาในยุคประวัติศาสตร์ได้มีการดัดแปลงเพิงหินเหล่านี้ให้เป็นศาสนสถาน โดยพบ พระพุทธรูปศิลปะทวารา วดี ที่ ถ้ำพระ อุทยานฯ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ยืนต้น ไม้ดอกนานาพันธุ์ โขดหินรูปร่างสวยงามแปลกตา ซึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชม คือ หอนางอุษา ที่มีลักษณะเป็นโขดหินคล้ายรูปดอกเห็ดหรือหอคอยขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนลานหินกว้าง เป็นที่มาของ ตำนานพื้นบ้าน ‘นางอุษา – ท้าวบารส’ นอกจากนี้ยังมีโขดหินรูปร่างต่างๆ ที่ถูกเรียกตามเรื่องในตำนานทั้ง ‘คอกม้าท้าวบารส’ ‘หีบศพนางอุษา’ ‘หีบศพท้าวบารส’ ‘วัดพ่อตา’ ‘วัดลูกเขย’ เป็นต้น

     จากอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดอุดรธานี เดินทางกลับเข้าสู่จังหวัดหนองคายอีกครั้ง ไปสักการะ หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปสำคัญคู่เมือง ที่ วัดโพธิ์ชัย เป็นอันดับแรก

     แวะชมและเลือกซื้อสินค้าที่ ตลาดท่าเสด็จ หรือ ตลาดอินโดจีน ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าที่อยู่จากแถบอินโดจีน เช่น จีน เวียดนาม และลาว รวมทั้งสินค้า OTOP หนองคาย เดิมชื่อตลาดท่าเรือ เพราะในอดีตก่อนที่จะมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว  เคยเป็นท่าเรือซื้อขายสินค้าระหว่างไทยและลาว ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2498 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีนาถ ทรงเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรและทรงขึ้นจากเรือพระที่นั่ง ณ ตลาดท่าเรือแห่งนี้ จึงเปลี่ยนชื่อเป็นตลาดท่าเสด็จ

     นอกจากเดินชมและเลือกซื้อสินค้าหลากหลายแล้ว ยังมีมุมที่จัดแบบย้อนยุคให้ถ่ายรูปสวยๆ ด้วย

     สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงจากประเทศไทยไปลาวแห่งแรก มีความสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและลาว และสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ

     บั้งไฟพญานาค   เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนในวันออกพรรษา มีลักษณะเป็นดวงไฟขนาดเล็กพุ่งขึ้นมาจากแม่น้ำโขงขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบั้งไฟของพญานาคในเมืองบาดาลที่อยู่ใต้แม่น้ำโขง พ่นขึ้นมาเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเฉพาะที่จังหวัดหนองคาย และตำแหน่งที่มักปรากฏบั้งไฟพญานาคมีประมาณ 20 จุด   โดยที่ พุทธอุทยานนานาชาติ หนองคาย ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอโพนพิสัย จะเป็นจุดที่มีบั้งไฟขึ้นมากเป็นอันดับต้นๆ และมีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจมารอชมปรากฏการณ์นี้เป็นจำนวนมาก นอกจากชมบั้งไฟพญานาคแล้ว ภายในพุทธอุทยานยังมี เจดีย์ทรงดอกบัว ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสวยงามให้ชม และได้ร่วมกิจกรรมทางศาสนา จุดประทีปลอยโคมเป็นพุทธบุชาอีกด้วย

     เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ระหว่างทางแวะ ตลาดผ้านาข่า ตลาดผ้าไหมคุณภาพ หนึ่งในสินค้า OTOP ห้าดาวประจำจังหวัดอุดรธานี เลือกซื้อ ผ้าหมี่ขิด หรือ ผ้าไหมลายขิด นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกที่ผลิตจากผ้าหลากชนิด เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย

     อุดรธานี ดินแดนแห่งอารยธรรมห้าพันปี โดยเมื่อปี พ.ศ. 2518 – 2519 กรมศิลปากรได้ทำการสำรวจขุดค้นพบ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่มีอายุราว 1,800 - 5,600 ปี กระทั่งปี พ.ศ.2535 องค์การยูเนสโกก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางประวัติศาสตร์

     แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ได้จัดแสดงไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง และ หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ตั้งอยู่ห่างจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียงไปทางทิศตะวันออกประมาณ 500 เมตร

     ทะเลบัวแดง ไม่เพียงเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในชุมชนมายาวนาน แต่ยังในยามเช้าตรู่ในฤดูหนาวยังมีดอกบัวสายบานอวดความงามไปทั่วทั้งหนองน้ำ และในช่วงต้นเดือนธันวาคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีการจัดงาน เทศกาลทะเลบัวแดงบาน หนองหานกุมภวาปี มีเรือบริการพาล่องชมอย่างใกล้ชิด

 


อ่าน : 0

แชร์ :


เขียนความคิดเห็น