ทฤษฎีสัมพัทธภาพ :ย่อโลกความคิดของไอน์สไตน์กับสุดยอดสมการฟิสิกส์ E=MC2 (INTRODUCING RELATIVITY)

แม้เวลาจาผ่านมาถึงหนึ่งศตวรรษแล้วก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ก็ยังคงคุณค่าและความหมายต่อวงการวิทยาศาสตร์และสังคมอย่างไม่เสื่อมคลาย หากเปรียบกับวรรณกรรมแล้ว เรื่องราวทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์น่าจะนับได้ว่าเป็นงานวรรณกรรมอมตะชิ้นหนึ่งของโลกทีเดียว ทั้งเป็นวรรณกรรมที่เกิดจากงานวรรณกรรมชิ้นเยี่ยมของนักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ อื่นๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เข้ามามีส่วนร่วมอยู่ด้วย ดังปรากฏในฉบับ Introduction ทฤษฎีสัมพัทธภาพ นี้ไม่ต่ำกว่าสี่สิบคนไม่ว่าจะเป็น คานต์ , นิวตัน , แมกซ์เวลล์ , ลอเรนท์ซ , ดิแรก , เทย์เลอร์, ฮอว์คิง และไคลน์ เป็นต้น ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ประกอบด้วย ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษที่ว่าด้วยระบบที่มีความเร็วสูงเข้าใกล้ความเร็วแสง และทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปที่มีผลของความโน้มถ่วงเพิ่มเข้ามา มีอำนาจอธิบายสูงกว่าความรู้เรื่องสัมพัทธภาพที่เคยมีมาก่อนเป็นศตวรรษ ผลการพิสูจน์ให้เห็นจริง ก่อให้เกิดการขยายพรมแดนของความรู้ ตั้งแต่โลกแก่งวัตถุขนาดเล็กระดับนิวเคลียส ไปจนถึงระดับเอกภพ ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ถือเป็นส่วนสำคัญแห่งการปฏิวัติวิทยาศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 20 คู่กันกับทฤษฎีควอนตัม นวัตกรรมที่เกิดจากทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ เช่น พลังงานนิวเคลียร์ระเบิดปรมาณู นวัตกรรมที่เกิดจากทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ เช่น ระบบบอกตำแหน่งบนพื้นโลก (GPS : Global Positioning System) นำไปสู่การทำแผนที่ ระบบนำทาง การระบุตำแหน่งที่แม่นยำ ด้วยความมีชื่อเสียงของไอน์สไตน์ ความคิดเห็นของเขามักถูกนำไปอ้างเสมอ และบ่อยครั้งเป็นการอ้างโดยที่ยังหาหลักฐานไม่ได้ เช่น การอ้างในทางศาสนา เป็นต้น งานเขียนแนะนำเบื้องต้น (Introducing) นี้ เป็นการประมวลเครือข่ายทางความคิดที่ผู้เขียนนำเสนอให้เห็นเป็นภาพรวมทั้งลึกและกว้าง แม้ผู้มีความรู้พื้นฐานอยู่บ้างก็ยังยากที่จะทำความเข้าใจกับเนื้อหากันเข้มข้นนี้ได้ครบถ้วนทั้งหมด (เช่นผู้เขียนคำนิยมเอง) กระนั้นก็ตามผู้อ่านที่ยังไม่มีพื้นความรู้เลย ก็สามารถเข้าถึงและสนุกกับการเริ่มเรียนรู้ไปกับเนื้อหาประกอบภาพได้เป็นอย่างดี โดยเราจะได้เห็นความใฝ่ฝัน มุ่งมั่นค้นหาความจริงของธรรมชาติ การฝ่าวิกฤตที่ยังหาคำตอบไม่ได้ด้วยวิธีคิดเก่า การค้นหาคำอธิบายใหม่ บนสมมติฐานใหม่ที่แปลแปร่งไปจากสามัญสำนึกเดิม เขาคิดมันได้อย่างไร? ทำไมเขาจึงคิดเช่นนั้น? เมื่อแก้ปัญหาเก่าได้แล้ว กาลต่อมาก็เผชิญกับปัญหาใหม่ คำอธิบายที่คิดว่าใหม่จากไอน์สไตน์ก็เริ่มมีขีดจำกัด เปิดทางให้กับความคิดใหม่ต่อไป ข้อสังเกตประการหนึ่งคือ เราได้เห็นอีกว่าการที่สังคมจะเจริญก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง จะต้องมีบรรยากาศของเสรีภาพแห่งการแสวงหาความจริงอย่างถึงที่สุดเป็นอิสระ ไม่ปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ไม่ข่มขู่คุกคามหรือลงทัณฑ์ผู้ที่มีความเห็นใดๆ แต่เป็นบรรยากาศแห่งความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับการพิสูจน์โต้แย้ง ไม่ว่าทฤษฎีนั้นจะสถาปนาโดยผู้มีบารมีเช่นนิวตัน หรือไอน์สไตน์ก็ตาม