บันทึกการเดินทาง 

บนเส้นทางฟื้นฟูความเชื่อมั่นพระพุทธศาสนา

มิถุนายน 2568

By: รณยุทธ์ จิตรดอน

     วันที่ 9 มิถุนายน ได้เข้าไปนมัสการพบสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ ได้ที่จอดรถข้างสุสานหลวง ริมคลองหลอด เพื่อเข้าไปขอความเมตตาอนุเคราะห์กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช ให้ทรงทราบ สัมโมทนียคาถาในหนังสือ“วัดที่ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลปัจจุบัน” ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะได้จัดพิมพ์ต่อไป

     และเมื่อ 18:00 ไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ คุณป้ากฤษณา วัชรคุปต์ ที่ศาลา 15 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา ซึ่งมีพระราชวรญาณโสภณ เจ้าอาวาส แสดงพระธรรมเทศนา และสวดพระอภิธรรม ถวายสังฆทาน และผ้าบังสุกุล พระสงฆ์ให้พร เสร็จพิธีเวลาประมาณ 20:30 น. 

     วันที่ 10 มิถุนายน ไปร่วมทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆสาธิตจุฬา CUD 4 ที่ร้านคั่วกลิ้ง ซอยราชครู เขตพญาไท เวลา 17:00 น. ได้ไปงานฌาปนกิจ คุณป้ากฤษณา วัชรคุปต์ สิ้นอายุ 102 ปี ณ เมรุวัดธาตุทอง เขตวัฒนา กลับถึงบ้าน 20:00 น.

     ด้วยความตั้งใจที่หนังสือส่วนใหญ่ที่เขียนใช้ตราสัญญลักษณ์ จึงมีวาสนาครอบครองเหรียญที่มีค่าทั้ง ”พระมหาชนก ” และ “เหรียญพระราชทาน” ความตั้งใจที่จะพิมพ์หนังสือเล่มใหม่ คือ “วัดที่ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลปัจจุบัน” ความตั้งใจนี้คงได้รับความสำเร็จตามเส้นทาง“พระมหาชนก”

https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2862445

     วันที่ 13 มิถุนายน ค้นดูพระมีอยู่เพิ่มเติม และองค์ที่กล่าวถึงกันองค์หนึ่ง คือ เหรียญจอบเล็กมีพุทธคุณตามหลวงพ่อเงินที่สร้าง https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2859705  

     วันที่ 16 มิถุนายน ไปพบท่านนิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อาคารสำนักนายกรัฐมนตรี ถนนพิษณุโลก โดยมอบพระพุทธโสธรให้ท่านนิยมไว้สักการะ ใช้เวลาให้รายละเอียดท่านนิยมตั้งแต่เข้ามาเกี่ยวข้องกับงานพระศาสนาอย่างไร สรุปแล้วท่านนิยมรับที่จะพิจารณาดังนี้

1.จัดพิมพ์หนังสือ “วัดที่ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลปัจจุบัน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567

2.ให้พิจารณาเสนอแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ“จัดระบบการจัดการทรัพย์สินของวัด” โดยมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน เพื่อเร่งรัดการจัดการศาสนสมบัติแงวัดเพื่อให้มีการสนองงานคณะสงฆ์อย่างมีประสิทธิภาพ

เสร็จแล้วลากลับเวลา 11:30 น.

     แจ้งนัดการประชุมท่านที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ที่ปรึกษา ผู้ชำนาญการ นักวิชาการ และเลขานุการประจำ 

     คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ครั้งที่ 15/2568 ในวันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2568  เวลา 13..30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 427 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา - พิจารณาความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการ มีวาระที่น่าสนใจเช่น 1.องค์การ IMD ประกาศลดลำดับความสามารถในการแข่งขันของไทย 2.คณะอนุกรรมาธิการการคลัง แจ้งเรื่องรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการการออมแห่งชาติเรื่อง ลอตเตอรี่หลังเกษียณ และ เรื่องเนื่องจากมีข่าวเกี่ยวกับพระสังฆาธิการโยกย้ายเงินปัจจัยของวัดโดยมิชอบเสมอมา และเป็นข่าวครึกโครมกรณีวัดไร่ขิง สร้างความเสื่อมศรัทธาแก่ชาวพุทธ เพราะ TDRI เคยมีงานวิจัยว่าปีหนึ่งๆแต่ละวัดมีเงินทำบุญเฉลี่ยถึงวัดละ 2.48 ลบ.ถ้าคิดจำนวนวัดทั้งหมดกว่า 40,000 วัดแล้ว มีเงินทำบุญมากกว่า หนึ่งแสนล้านบาท กรณีนี้สมเด็จพระสังฆราชได้มีพระบัญชาเมื่อ 21 พฤษภาคม 2568 ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พิจารณาเสนอจัดตั้ง “คณะอนุกรรมการจัดระบบการจัดการทรัพย์สินของวัด”โดยมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์เป็นประธาน ด้วยปัญหาการบริหารจัดการสินทรัพย์ได้ปรากฎกันโดยทั่วไป คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการบริหารจัดการคณะสงฆ์ ให้คณะกรรมาธิการการศาสนาพิจารณาต่อไป

เลิกประชุมเวลา 17:00 น.

     เรื่องการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ผมได้พยายามให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบเร่งด่วนต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นความสนใจจึงได้ส่งข่าวให้Bangkok Post ลงให้ตั้งแต่ 24 มีนาคม และต่อมาได้ชี้แจงในที่ประชุมกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง เมื่อ 4 เมษายน ที่ผ่านมา และน่ายินดีที่สภาผู้แทนราษฎรได้นำเรื่องการขึ้นภาษี พิจารณาเป็นญัตติด่วนในวันนี้(8 เมษายน) และมาถึงวันนี้เป็นที่น่ายินดียิ่งที่ฝ่ายสหรัฐให้ความเห็นเป็นคุณกับข้อเสนอของฝ่ายไทย หากนับตั้งแต่วันที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษี ไทย 36% ตั้งแต่ 2 เมษายน ใกล้ครบเวลา 90 วัน ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้แล้ว ฝ่ายสหรัฐได้ยื่นข้อเสนอให้ฝ่ายไทยมาแล้ว 4 ข้อเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน และฝ่ายไทยจะต้องส่งข้อพิจารณากลับคืนให้ฝ่ายสหรัฐในวันที่ 20 มิถุนายน อาจจะทำให้ข้อตกลงเสร็จไม่ทัน 90 วัน ซึ่งระยะเวลาก็จะเลื่อนออกไปได้

https://www.thaipbs.or.th/news/content/353337?utm_source=LINE&utm_medium=NEWS&utm_campaign=Pushmsg1&utm_content=content353337

     วันว่างจากงานประจำ บ่ายวันที่ 18 มิถุนายน ถือโอกาสแวะเข้าไปไหว้ขอพรพระบรมสารีริกธาตุที่บรมบรรพต (ภูเขาทอง) วัดสระเกศราชวรวิหาร  

    เมื่อขึ้นไปถึงลานจะมีทางขึ้นไปบริเวณลานเจดีย์ เข้าไปกราบหลวงพ่อทวด และสมเด็จโตก่อน และไปทำบุญบูชาผ้าไตร กราบบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และเวียนประทักษิณ ลงชื่อบนผ้าห่มเจดีย์ และวางพานผ้าไตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ได้เติมบุญเต็มแล้วจึงลงจากบรมบรรพต เวลา 17:30 น.แล้ว

     พระกริ่งที่กล่าวขวัญถึงกันในหมู่เซียนพระมี พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ พระกริ่งเปาวเรศ วัดบวร และพระกริ่งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เพราะสร้างจำนวนไม่มาก บูชาจึงเป็นหลักล้าน หรือหลายๆล้าน แต่วันนี้จะไปกราบบูชา 2 วัดย่านคลองภาษีเจริญ คือ หลวงปู่วัดปากน้ำ วัดปากน้ำภาษีเจริญ และ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ในทรงธรรม   ทั้ง 2 วัดนอกจากจะมีคณะศรัทธา เวียนไหว้ไปกราบไหว้ แล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมในแต่ละวันเป็นจำนวนมากอีกด้วย เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์จึงรีบกลับ ตั้งแต่ 16:30 น.

https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2865212?_trms=7055ba0d94fda0bd.1750341849195

    วันที่ 21 มิถุนายน ใช้เวลาค้นหาบทความและหนังสือที่ได้ตั้งใจเขียนเรียบเรียงขึ้นมา ตั้งแต่ก่อนปี 2550 และได้รวบรวมเป็นเล่มใช้ชื่อ “อริยะ 21 50 สำนักปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ“ 2551 ในขณะที่เขียนบทความทางเศรษฐกิจที่มีความชำนาญ ตีพิมพ์ในหนังสือรวมบทความประจำปีสมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย 2 บทความ คือ

- “การบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (หนี้เสีย) ในช่วงก่อนการปรับโครงสร้างระบบการกำกับตรวจสอบระบบการเงิน” กันยายน พ.ศ.2549

- “ทางเลือกใหม่ของสังคม-เศรษฐกิจพอเพียง” กันยายน พ.ศ.2552

  และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม เป็นbest sellers 2 ฉบับ คือ

- “แผนที่ความสุข-100 สถานที่ปฏิบัติธรรมทั่วไทย 1 และ 2” ตุลาคม 2551

-  “Meditation in Thailand” มกราคม 2552 โดยต่อมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาและกรรมการรวบรวมสถานปฏิบัติธรรม 60 แห่งสำหรับชาวต่างประเทศด้วย

ทำให้เป็นนักเขียนการท่องเที่ยวเชิงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมที่ได้พิมพ์หนังสือให้กระทรวงวัฒนธรรม 2 ฉบับ คือ

-“ 9 เส้นทางพุทธบูชา 99 ศาสนสถาน และสถานที่ประวัติศาสตร์”ไทยและอังกฤษ มีนาคม 2554

-“ท่องเที่ยวพุทธสถานแห่งอุษาคเนย์” ไทยและอังกฤษ กันยายน 2554

    การจัดพิมพ์หนังสือยังคงพิมพ์ต่อเนื่อง กระทั่งปี 2564 จึงได้เปลี่ยนเป็นเขียนบทความ ทัวร์บุญในชื่อ“ลุงกับป้าพาเที่ยว” “จาริกบุญ” และ “บันทึกการเดินทาง” ลงพิมพ์ทุกๆเดือนใน Chulabook blog  

     และขอให้ติดตามหนังสือพระอารามหลวงชุดใหม่เร็วๆ นี้ คือ “วัดที่ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลปัจจุบัน” เป็นเล่มที่ 15 หลังจากได้ตีพิมพ์“พระอารามหลวง vol. 1และ vol.2 และพระอารามหลวง-กทม vol.3” ภาษาไทยและอังกฤษ พ.ศ.2555, 2556 นับเป็นหนังสือพระอารามหลวงฉบับแรกที่พิมพ์เป็นภาษาไทยและอังกฤษ

     การประชุมของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ครั้งที่ 16/2568 ในวันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2568  เวลา 13..30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 331 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา

1.พิจารณาร่างแผนการเดินทางศึกษาดูงานภายในประเทศของคณะกรรมาธิการ (ภูเก็ต, เพชรบุรี และ ปากช่อง)  

2.พิจารณาความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการการเงิน, คณะอนุกรรมาธิการการคลัง และคณะอนุกรรมาธิการตลาดทุน และประกันภัย) และยังได้แจ้งที่ประชุมเรื่องการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ได้พยายามให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบเร่งด่วนต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นความสนใจจึงได้ส่งข่าวให้ Bangkok Post ลงให้ตั้งแต่ 24 มีนาคม และต่อมาได้ชี้แจงในที่ประชุมกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง เมื่อ 4 เมษายน ที่ผ่านมา และน่ายินดีที่สภาผู้แทนราษฎรได้นำเรื่องการขึ้นภาษี พิจารณาเป็นญัตติด่วนในวันที่ 8 เมษายน) และมาถึงวันนี้เป็นที่น่ายินดียิ่งที่ฝ่ายสหรัฐให้ความเห็นเป็นคุณกับข้อเสนอของฝ่ายไทย หากนับตั้งแต่วันที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษี ไทย 36% ตั้งแต่ 2 เมษายน ใกล้ครบเวลา 90 วัน ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้แล้ว ฝ่ายสหรัฐได้ยื่นข้อเสนอให้ฝ่ายไทยมาแล้ว 4 ข้อเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน และฝ่ายไทยจะต้องส่งข้อพิจารณากลับคืนให้ฝ่ายสหรัฐในวันที่ 20 มิถุนายน อาจจะทำให้ข้อตกลงเสร็จไม่ทัน 90 วัน ซึ่งระยะเวลาก็จะเลื่อนออกไปได้

https://www.thaipbs.or.th/news/content/353337?utm_source=LINE&utm_medium=NEWS&utm_campaign=Pushmsg1&utm_content=content353337

     วันที่ 25 มิถุนายน ได้ร่วมประชุมคณะทำงานผู้ประเมินราคา ท่านปฏิมา จิระแพทย์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการตลาดทุนและประกันภัย เชิญให้เข้าร่วมประชุม ณ ห้อง CA 302 อาคารรัฐสภา (ห้องนี้ได้บรรยากาศเจ้าพระยาเต็มๆ) ได้พบกับ ดร.สุทัศน์ เศรษฐบุญสร้าง ทบทวนความหลังครั้งที่ดร.สุทัศน์ฯทำงานอยู่ TDRI บนถนนอโศกขับรถไปส่งผมที่ปลายถนนอโศก ตามประสาผู้มีวัยวุฒิทั้งคู่

    ความตั้งใจเดิมต้องการบันทึกการเดินทางฉบับนี้จะเป็น “บนเส้นทางฟื้นฟูความเชื่อมั่นพระพุทธศาสนา” แต่ได้ปรับเปลี่ยนเป็นตามวาระของเดือนนี้  

- วันที่11 พฤษภาคม ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 เป็นวันวิสาขบูชา ได้ถือปฏิบัติเช่นพุทธศาสนิกชนทั่วไป คือเข้าวัดฟังธรรม ถวายภัตตาหาร ปัจจัยไทยธรรม แด่พระสงฆ์ ร่วมบุญหล่อพระพุทธนฤมิตสิทธิมงคล ณ วัดเสมียนนารี

     และที่น่ายินดีที่ข้อเสนอไทยเสนอเจรจาลดภาษีต่อสหรัฐที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวชื่นชมข้อเสนอของประเทศในเอเชียในคราวประชุม Saudi Investment Forum ณ กรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ไต้หวัน และไทยด้วย

     เวลาผ่านมากว่า 12 ปี ได้มีการยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นวัดหลวง อีก 13 วัด ต้นฉบับ “วัดที่ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลปัจจุบัน” ได้ทำร่างเสร็จแล้ว  เป็นภาษาไทยและอังกฤษเช่นเคย เป็นส่วนหนึ่งในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ซึ่งเป็นคณูปการแก่พระพุทธศาสนา

https://www.chulabook.com/blog/222/1427

     แนวทางการเจรจาของทางคณะผู้แทนไทยเป็นการเจรจาแลกเปลี่ยนกันซึ่งเป็นวิถีทางที่ควรจะเป็นแต่ผมเคยมีข้อคิดเห็นหลายประการดังนี้

1.คณะผู้แทนไทยจะเข้าไปเจรจาโดยคณะเราเองหรือ เพราะระบบอเมริกันควรจะเจรจาผ่านตัวแทนซึ่งเข้านอกออกในผ่าน lobbyist ซึ่งสถานทูตน่าจะมีรายชื่อlobbyist ที่ไทยเราใช้อยู่แล้วพร้อมทั้ง อัตราค่าที่ปรึกษาด้วย และองค์การของสหรัฐที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบายของสหรัฐเช่น Council on Foreign Relations และในคราวนี้ได้มีการเปิดเผยแล้วว่าจะมีการจ้าง lobbyist (เตรียมเงินไปจ่ายประมาณ 80 ลบ.) เพื่อให้เข้าช่องทางที่เจรจาได้เร็วที่สุด

2.กลุ่มผลประโยชน์ที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบายของสหรัฐย่อมเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของเขา ว่าจะเป็นเฉพาะการค้าของเขาเท่านั้นหรือต้องการพันธมิตรที่ต่อสู้ทางการเมืองร่วมกัน  

3.การต่อรองนี้หากต้องมีค่าใช้จ่ายสูงก็ควรจะให้บรรดาสินค้าที่ส่งออกจำนวนมากช่วยกันเฉลี่ยออก ไม่ใช่ให้รัฐบาลออก เพราะประโยชน์ที่ได้จากการเจรจาตกกับสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐมาก  

     ผมเห็นความสำคัญของการเจรจามากกว่าการตอบโต้ทางการค้าแต่ไหนแต่ไรแล้ว เมื่อไม่มีใครให้ความสำคัญก็ส่งบทความไปให้ Bangkok Post ลงให้ตั้งแต่ 24 มีนาคมแล้วครับ เผื่อว่าคนในรัฐบาลจะให้ความสนใจขึ้นมาบ้าง

https://btimes.biz/whatsup/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3/