Episode 2 : Chapter 2 โทรศัพท์หาย

นัทธมนเดินเข้าห้องเรียนกับเพื่อนอีกสามคนอย่างอารมณ์เสีย

“ขออนุญาตค่ะอาจารย์”

“เชิญค่ะ! ”

เมื่อทั้งสี่คนเดินไปนั่งที่โต๊ะเรียนกันเรียบร้อยทุกคนในห้องเรียนก็เรียนตามปกติ แต่มีหญิงสาวอีกหนึ่งคนที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงจับๆวางๆปากกาบ้าง

 

ส่วนพิชญาที่เดินผ่านหน้าของนัทธมนก็เดินยิ้มไปยังอาคารของตัวเองอย่างอารมณ์ดีผิดกับนัทธมนโดยสิ้นเชิง

“ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ”

“เชิญค่ะ! ”

หญิงสาวขออนุญาต และเมื่อได้รับอนุญาตเธอจึงเดินเข้าห้องอย่างไม่ลังเล

“พิชญาทำไมเข้าสาย”

“คือว่า..”

“พิชญา!! ”

เสียงใครบางคนดังมาจากหน้าประตูห้องเรียนแล้วเรียกชื่อของใครบางคน

“คะ! ”

พิชญาที่กำลังจะตอบคำถามอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียน และต้องวางแผ่นกระดาษจำนวนหนึ่งวางลงบนโต๊ะเรียนก่อน เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกชื่อตน

“ขออนุญาตยืมตัวพิชญาสักครู่หนึ่งนะคะ”

“เชิญค่ะ”

เมื่อได้รับคำอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอน จึงเดินออกไปหาบุคคลที่ยืนรออยู่หน้าห้อง

“มีอะไรคะ! อาจารย์..”

“เดี๋ยวอาจารย์จะไปทำธุระ อาจารย์จะฝากงานกับเราไว้ในคาบต่อไป”

หญิงสาวเมื่อได้ยินดังนั้นจึงยื่นมือไปรับงานจากผู้เป็นอาจารย์ แล้วใช้สายตาตรวจสอบงานที่ได้รับมา

“อาจารย์คะ! อาจารย์เคยให้พวกเราทำงานนี้ไปแล้วนะคะ”

“เอ้าาา! หรอ..อาจารย์ขอโทษๆ ลืมไปสนิทเลย งั้นคาบต่อไปพวกเธอไม่ต้องทำงานคาบของอาจารย์ ให้เคลียร์งานของวิชาอื่นให้เสร็จก็แล้วกัน”

“ค่ะ!! ”

“งั้นอาจารย์ไปก่อนนะ..เดี๋ยวไปไม่ทัน”

“ค่ะะ..เป็นอะไรของแกนะ”

พิชญากล่าวอย่างสงสัยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องเรียนของตน

“อาจารย์ท่านมาสั่งงานอะไรไว้คะ”

“เปล่าค่ะ!! อาจารย์ให้เคลียร์เก่าที่ทำค้างไว้ในแต่ละวิชาให้เสร็จค่ะ”

“แล้วทำไมเข้าสาย..”

“ไปเอาใบประกาศที่ห้องบุคคลมาค่ะ”

หญิงสาวเมื่อกล่าวจบประโยคก็เดินกลับไปนั่งที่ แล้วเริ่มเรียนตามปกติ

เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนบางคนก็อ่านหนังสือเตรียมสอบ บ้างก็เล่นหรือกลับบ้านกันตามปกติ

.

 

.

 

.

“เชี้ยยย!!! ”

“อะไรแก!! ”

“โทรศัพท์หายว่ะ! ”

“อ้าววว!! ไปทำทีท่าไหนถึงได้ทำโทรศัพท์หายได้เนี่ยย!! ”

“ไม่รู้ว่ะะ!! สงสัยลืมไว้บนห้อง พวกแกกลับก่อนเลย..ฉันจะเข้าไปดูในโรงเรียนก่อน”

“อ้าววเฮ้ยแกก..”

หญิงสาวกล่าวอย่างรีบร้อนจนจบประโยคแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในโรงเรียนเลย โดยที่ไม่ฟังคำของเพื่อนตนเองพูดให้จบก่อน

เธอรีบวิ่งเอาไปในโรงเรียนโดยไม่ได้ดูทางข้างหน้าจนไปชนกับใครคนหนึ่งเข้าจนเกือบจะล้มกันทั้งสองคน

“อุ้ยย!! ”

“ขอโทษค่ะ! ”

หญิงสาวกล่าวขอโทษโดยยังไม่ได้เงยหน้ามองหน้าคนข้างหน้า 

“ไม่เป็นไรค่ะรุ่นพี่..ดูท่าทางรีบร้อนจังเลยนะรุ่นพี่”

หญิงสาวผู้รับเคราะห์ถูกชนอย่างแรงถามทั้งที่ยังยืนรับคนที่วิ่งเข้ามาชนตัวเองอยู่ แล้วจึงทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ตัวเองวิ่งชนเข้า ทั้งสองจ้องตากันครู่หนึ่งผู้ชนก็ผละตัวออกจากผู้รับเคราะห์

“นี่เธออีกแล้วหรอ..”

“อะไร! ”

“ก็...ช่างเถอะ! ฉันไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับเธอตอนนี้”

เมื่อเธอกล่าวจบเธอก็รีบวิ่งออกไป คนที่เธอวิ่งชนก็ยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะหันหลังกลับไปมองตามหลังของเธอ

“รีบร้อนซะขนาดนี้..คงต้องตามหาของแน่ๆ แกล้งนางสักหน่อยดีกว่า...”

กล่าวจบเธอก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงพร้อมกับจ้องมองยังจุดนั้น เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในกระเป๋ากระโปรงของตัวเอง

หลังจากที่ฉันวิ่งออกไปจากมันฉันก็ขึ้นไปที่อาคารเรียนของตัวเอง แล้วเข้าไปดูในห้องเรียนประจำแต่ก็ไม่เจอโทรศัพท์เลย ฉันจึงลงมาหาข้างล่างในที่ที่ฉันเดินไปในวันนี้แต่ก็ไม่เจออีกอยู่ดี จนฉันถอดในเดินกลับออกไปหน้าโรงเรียน

.

“เข้าไปหาอะไรอยู่หรอคะ..ถึงได้ออกมาเอาป่านนี้!”

“เปล่า! เฮ้อะะ..นี่! ยังไม่กลับอีกหรือไง”

หญิงสาวกล่าวไปในเชิงประชด

“ก็อยากรู้ว่าเข้าไปในโรงเรียนอีกทำไม ก็เลยรอดูซะหน่อย”

เมื่อเธอกล่าวจบก็ยกยิ้มมุมปาก

“ยิ้มอะไร..”

“เปล๊าา! แล้วนี่กลับไงอ่ะ ให้เอิร์ทไปส่งมั้ย! ”

“อย่าเผือกก..”

“อะไรนะ! ว่าเราเผือกหรออ..เรายิ่งชอบกินเผือกอยู่ด้วยสิ! ”

“เธอนี่มัน..”

“ตกลงกลับไง”

“เรื่องของฉัน..แล้วบอกชื่อฉันทำไม ฉันไม่ได้อยากรู้ชื่อเธอ”

“อยากบอก..มีไรป้ะ! ถ้าพี่จะกลับสองแถว บัสหรือแท็กซี่ก็ตามใจน้าา! เย็นขนาดนี้แล้วด้วย..จะกลับสองแถวหรือบัสกับแท็กซี่คนเดียวแบบเนี้ย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาอย่ามาโทษกันนะรุ่นพี่”

กล่าวจบเธอก็ก้าวขาขึ้นมอเตอร์ไซต์ของตัวเองแล้วสวมหมวกกันน็อค และทำท่าทางเหมือนจะบิดรถออกไป

“ดะ เดี๋ยวๆ..เดี๋ยวก่อน ให้ไปส่งบ้านก็ได้”

เมื่อได้ยินดังนั้นคนบนมอเตอร์ไซต์ก็หยุดทุกการกระทำ แล้วใบหน้าภายใต้หมวกกันน็อคนั้นก็ยิ้มย่องชอบใจที่คนที่ตัวเองพยายามแกล้งยอมมากับตนได้สำเร็จ

น่ารักจัง..ผู้หญิงแบบนี้!

พิชญาคิดกับตัวเองใจในเพราะไม่อยากให้ใครบางคนได้ยิน

“เราอยู่บ้านอะไรล่ะ! จะได้ไปส่งถูกที่..”

“ศศิรินทร์ 2”

หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆที่ไม่เต็มใจจะตอบนักสักเท่าไหร่

.

 

 

.

 

 

.

พิชญาขับมอเตอร์ไซค์มานัทธมนที่บ้าน แต่ทว่าโดนพิชญาหลอกให้ขี่วนไปวนมาหลายรอบหลายซอย แรกก็เล่นด้วยอยู่หรอก แต่พิชญาก็เริ่มที่จะหัวเสียเพราะมันเริ่มจะมืดแล้ว

“สรุปบ้านรุ่นพี่ไปทางไหนกันแน่..ฉันไม่เล่นด้วยแล้วนะ ถ้าไม่บอกดีๆ ฉันจะทิ้งรุ่นพี่ไว้ตรงนี้แหละ เอ๊ะะ! หรือว่าา...อยากอยู่กับฉันนานๆ ถ้าบอกดีๆ เราก็พร้อมที่จะอยู่น้าาา”

“ยัยเด็กบ้านี่”

“โอ้ยย! เจ็บนะ!! ”

นัทธมนกำมือทุบเข้าที่หลังของหญิงสาวอีกคนจนเธอร้องเจ็บ

“ใครจะไปอยากอยู่กับเธอ”

“ก็ไม่แน่หร๊อกกก..”

ตุ้บบบ!!

“โอ้ยยย!! ”

นัทธมนตีเขาเข้าที่เดิมอีกครั้ง

“โอ้ยย!! ก็ได้ๆ ฉันไม่เล่นแล้วก็ได้ แล้วสรุปบ้านรุ่นพี่ไปทางไหนกันแน่ล่ะ! ”

“ทางนี้..”

เธอชี้นิ้วบอกทาง

.

.

“จอด จอดๆ จอดๆ จอดดๆๆ โอ๊ะะ!! ”

เอิร์ทรีบจอดรถอย่างแรงเพื่อหวังจะแกล้งคนซ้อน

“ขับบ้าอะไรของเธอเนี่ยย..”

“เอ้าา ละก็บอกให้จอด”

เธอเบะปากเป็นเชิงเยาะ

“บ้านใหญ่โตดีนี่..”

“ทำไม อิจฉารึไง”

“เปล่า..ไหนบอกอยู่ศศิรินทร์2ไง แต่นี่มันน...”

ชักสีหน้าเป็นเชิงสงสัยกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า

“ก็ใช่ไง! อยู่ข้างๆกัน”

“เอ้อะ..บ้านก็ออกจะใหญ่โตทำไมไม่ให้คนที่บ้านไปรับไปส่ง หรือเป็นแค่ลูกคนใช้ในบ้านหรอ”

“ถีบตกรถเลยดีมั้ยฮะ”

“แรงง...นี่โทรศัพท์..ไปล่ะ!! เจอกันพรุ่งนี้”

ฉันยกแขนกะจะตีอีเด็กบ้านั่น แต่มันดันขับมอเตอร์ไซต์ออกไปเสียก่อน

“เอาะะ..นี่ หลอกมาส่งฉันงั้นหรออ...มันน่านักเชียวว! ใครเค้าอยากจะเจอกับคนอย่างเธอกันเล่า...ชิ!! ”

หลังจากที่ยัยเด็กบ้านั่นมาส่งฉันถึงบ้านแล้ว ฉันก็ได้แต่ยืนมองตามหลังยัยนั้นที่พึ่งขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ‘คนอะไรหลงตัวเองฉิบหาย’ ฉันคิดในใจแล้วเดินเข้าไปในบ้าน

นี่เจอแค่วันเดียวยังกวนทีนขนาดนี้ แล้ววันต่อๆไปมันจะขนาดไหน


View : 0

Share :


Write comment