ราคารวม : ฿ 0.00
“เชี้ยยย!!! ”
คุณอาจจะตกใจกันสินะ ว่าฉันอุทานแบบนั้นออกมาทำไม ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพที่ ‘เปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวอยู่บนเตียงนั่นแหละ’ และอยู่กับคนที่ฉันเกลียดที่สุดมานอนอยู่ข้างๆกายฉัน ฉันเลยต้องอุทานแบบนั้นออกมา
เอาล่ะฉันจะเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มต้นนะ ว่าก่อนที่ฉันจะมาอยู่ในสภาพนี้ ฉันและคนที่นอนอยู่ข้างๆฉันเราเป็นอะไรกันถึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้
ฉันชื่อ “นัท นัทธมน” อายุ18ปี ก็ม.6นั่นแหละ ฉันเป็นนักเรียนม.ปลายที่แทบจะไม่ทำตามทุกกฎของโรงเรียนเลยแม้แต่ข้อเดียว แต่ไอ้กฎอะไรนั่นน่ะ ครูเค้าไม่ได้ตั้งเองหรอกนะ ครูฝ่ายปกครองยกให้เป็นหน้าที่ของพวกสภานักเรียนนั่นแหละ
ส่วนตัวฉันก็ไม่ได้ชอบพวกสภานักเรียนอยู่แล้วด้วยสิ ฉันเลยไม่ทำตามกฎของโรงเรียนที่พวกสภานักเรียนตั้งขึ้นมา และคนที่ฉันเกลียดที่สุดนะ ในกลุ่มสภานักเรียนก็ดันมานอนแก้ผ้าอยู่กับฉันที่ฉันได้เล่าไปตั้งแต่แรกนั่นแหละ ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆ (ฮื้อๆ) และมันมีชื่อว่า “เอิร์ท” ชื่อจริงชื่อไรวะ! ขอคิดแปป....อ้ออ! คิดออกละ ชื่อ “พิชญา” อายุ17ปี อยู่ม.5 ห่างฉันแค่ปีเดียวเอง เอออ..ลืมบอกไปมันเป็นผู้หญิงนะ ไม่ใช่ผู้ชายถึงชื่อมันจะเหมือนผู้ชายก็เหอะ
ทุกๆวันฉันมักจะโดนจับตามองจากพวกสภานักเรียนอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอีเด็กเอิร์ท
ฉันมักจะได้ออกกำลังกายเมื่อเจอพวกสภานักเรียนอยู่เสมออ่ะนะ ที่ว่าออกกำลังกายน่ะ หมายถึง‘วิ่งหนี’นะ ที่วิ่งหนีไม่ใช่เพราะอะไรหรอก..เพราะฉันทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนน่ะสิ ‘ใส่ถุงเท้าสั้น ปล่อยเสื้อลอยชายไม่ยัดเข้าข้างในไม่ผูกโบว์โรงเรียน กระโปรงสั้นกว่ามาตรฐานที่โรงเรียนกำหนด (นิสนึง) ’ เลยจะต้องถูกทำโทษ #ไม่นิดล่ะค่ะ!!
แล้วใครจะมายอมให้ถูกจับทำโทษง่ายๆเล่า ฮึ ฮึ!!! รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว ไม่มีทางซะหรอก...แต่ถ้าโดนจับได้ก็ต้องถอดกระโปรงออก แต่เอิร์ทมันก็ดันใจดีพกกระโปรงยาวๆมาให้ฉันยืมใส่ซะด้วย...oh my godddd..! กระโปรงยาววว..ยาวมากกก..!! แต่แค่ฉันคนเดียวนะ หรือเป็นเพราะเราเป็นคู่หมั้นกันมันถึงทำแบบนี้
ทุกวันฉันจะมาโรงเรียนทุกๆเช้า และวันนั้นฉันดันมาสาย ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ใส่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามากขนาดนั้นหรอกนะ ฉันยังใส่ยาวตามที่กำหนดไว้อยู่ แต่ทว่าฉันดันตื่นสายจึงหยิบใส่กระโปรงมาผิดตัวเป็นกระโปรงตอนอยู่ม.2มาซะงั้น (คือเก็บไว้ไม่ได้เอาไปไหน) แต่สายป่านนี้แล้วยังมีพวกสภานักเรียนมายืนรอรับไหว้อยู่อีก ฉันก็มายืนไหว้หน้าโรงเรียนตามปกติ แต่น้องสภาผู้หญิงคนนึงดันพูดขึ้นมาว่า
“ถุงเท้าสั้น..กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามากเลยนะ ต้องถอดกระโปรงกับถุงเท้าออก..ไม่ผูกโบว์ผูกผม..เสื้อลอยชายอีกต่างหาก เอาเสื้อเข้าข้างในเดี๋ยวนี้ค่ะ”
“เฮอะะ! อะไรกันน้อง...แค่ถุงเท้าสั้นกระโปรงสั้นแค่นี้ ถึงกับต้องให้ถอดออกเชียวหรอน้อง”
คนอื่นเค้าไม่ว่าอะไร แต่อีพี่สภาคนหนึ่งมันดันพูดขึ้นมาสั่งโน่นสั่งนี่ซะงั้น
“ไม่ได้พี่..ต้องถอดดด!! มันเป็นกฎ..”
“กฎบ้ากฎบออะไรวะ! ถ้าถอดออกฉันก็ไม่มีอะไรใส่สิ”
“แต่พี่!! นี่เป็นกฎของโรงเรียนนะพี่ ยังไงก็ต้องถอดออก”
สภานักเรียนอีกคนมันว่า
“เฮ้ยยย!! น้อง..กฎที่พวกน้องตั้งขึ้นเองมากกว่ามั้ยวะ”
“แต่มันก็คือกฎ..ถ้าไม่ถอด เดี๋ยวฉันถอดให้! กางเกงในห้องปกครองมีค่ะ”
“นี่อย่านะ กางเกงงง...ใครจะกล้าใส่เดินไปเรียนวะ!! อายคนตาย ใส่เองเถอะนะ ไปละ......”
เธอรีบวิ่งฉิวเข้าไปในโรงเรียน
รู้งี้ให้คนรถมาส่งก็ดีหรอก
“อ้าววว!! พี่! ไหงพุ...”
ถ้อยคำสุดท้ายของชายผู้เป็นสภานักเรียนอีกคนนั้นได้ขาดหายไปเมื่อหญิงสาวรีบเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ยอมฟังคำพูดนั้นให้จบก่อนทันที ทำให้สภานักเรียนที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียนต้องวิ่งตาม แต่เธอก็ยังวิ่งหลบหนีไปจนลับสายตาได้ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทุกอย่าง
“หายไปไหนแล้วเนี้ยย..วิ่งเร็วจังวะ”
“รุ่นพี่คนนี้อยู่ห้องไหนวะ! มึงรู้ป่ะ..”
“กูจะรู้ได้ไงเอิร์ท..มึงก็ถามโง่ๆ หน้ากูก็พึ่งเคยเห็นวันนี้”
“กูชักจะสนใจรุ่นพี่คนนี้แล้วสิ”
เธอกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก
.
.
เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการเรียนการสอน ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้องเรียนตามปกติ รวมถึงสภานักเรียนด้วยเช่นกัน การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างช้า ส่วนตัวฉันก็มีแต่ฉันนี่แหละที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงเบื่อกับคาบเรียนที่แสนจะยาวนานอย่างเต็มทน จนเวลาล่วงเลยมาถึงเวลาพักเที่ยง
“นุ่น ไวน์ แพร ไปกินข้าวกัน”
“แปปนึงๆ ฉันเก็บของก่อน”
เสียงของแพรเพื่อนของฉันพูดเอง เมื่อมันพูดจบมันก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ ในกลุ่มของพวกเราก็มีมันนี่แหละที่ต้องใจเรียน เรียนเก่งที่สุดในห้องเรียน ไม่รู้มันจะขนมาทำไมเยอะแยะ ส่วนฉันก็...พอได้
“OK เสร็จละ”
“งั้นนน..ไปกัน”
ไวน์เพื่อนของฉันอีกคนพูด
แต่เมื่อลงจากห้องเรียนจะไปโรงอาหาร ฉันกับเพื่อนก็เดินคุยกันระหว่างทางตามปกติ แต่ทว่าดันเดินมาเจออีเด็กสภานักเรียนคนหนึ่งเดินมากับเพื่อนของมัน ปกติก็เจอกันอยู่ทุกเช้าล่ะนะ ไม่ได้รู้จักกันหรอกแต่เจอกันทุกเช้า และฉันก็เดินถอยหลังไปชนหลังของสภานักเรียนคนที่กล่าวมานั้นพอดี
“ขอโทษค่ะ!! ”
หญิงสาวหันกลับไปกล่าวขอโทษแล้วหันหน้าขึ้นมองหน้าคนตรงหน้า
“เฮ้ยยย!!! ”
เธอร้องตกใจไม่คิดว่าจะเจออีก
“พี่คนเมื่อเช้านี้นี่! เมื่อเช้าปากกล้ามากเลยนะคะพี่น่ะ”
“น้องเอิร์ท! ”
“หวัดดีค่ะพี่นุ่น”
“อะไรอีกน้อง”
ฉันถามกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวอีเด็กสภาหน้าโรงเรียนเลยแม้แต่น้อย มันก็เลยเดินเข้ามาใกล้ฉัน แล้วโน้มศีรษะลงมาใกล้ๆหน้าของฉัน
“ไม่ทำไมหรอกค่ะ! แค่...อยากบอกว่าถุงเท้าสั้นกระโปรงสั้น ระวังโดนครูปกครองเรียกพบนะคะ”
“ฮะ! ว่าไงนะ! จะฟ้องครูฝ่ายปกครองงั้นสิ นี่มันเรื่องเล็กๆเองแล้วนี่ก็เที่ยงแล้วด้วยนะ จะทำอะไรอีกฮะ! ”
น้ำเสียงอันยียวนกวนประสาททำให้ฉันสวนกลับไปอย่างรวดเร็วและไม่เกรงกลัวใดๆ แล้วอีเด็กสภาคนนั้นก็เลื่อนใบหน้ามาที่บริเวณใบหูของฉัน ทำไมมันใจกล้าจังวะ นี่ฉันเป็นรุ่นพี่มันนะ
“จะทำอะไรน่ะ!! ”
“พูดเล่นน่ะค่ะรุ่นพี่..”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงอันยียวนบวกกับรอยที่เธอส่งยิ้มบางๆให้ ทำให้แม่สาวตรงหน้าแทบกลั้นอาการเขินเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่เธอจะเดินเลี่ยงออกไปแล้วแอบยิ้มเจ้าเล่ห์กับเพื่อนของตัวเอง
ฉันได้แต่มองตามหลังของรุ่นน้องสภารักเรียนคนนั้นและไม่รู้หรอกนะว่าภายใต้แผ่นหลังเบื้องหน้านั้นเค้าจะคิดอะไรอยู่หรือทำสีหน้าท่าทางยังไง
“ชิ...!! ”
“เป็นไรแก”
“ก็อีเด็กสภานี่สิ! เมื่อเช้าสั่งโน้นสั่งนี่ฉันอย่างกับเป็นพ่อเป็นแม่ฉันอะไรอย่างนั้นแหละ”
“น้องเอิร์ทเนี้ยนะ! ”
“ชื่อเอิร์ทหรอ! ชื่อเหมือนผู้ชายจังวะ”
“แล้วน้องเค้าว่าอะไรแกบ้าง”
“ก็หาว่าฉันใส่ถุงเท้าสั้น กระโปรงสั้นเกินมาตรฐาน ไม่ผูกโบว์ผูกผม ทำไงได้วะ! คนมันรีบนี่หว่า”
“สมกับที่เป็นเอิร์ท”
“มันก็สั้นจริงๆน่ะแหละ”
“โห่..แกเข้าข้างมันหรอ นี่ฉันเพื่อนแกนะ แกควรจะเข้าข้างฉันสิ! ก็ถ้าไม่ตื่นสายคงไม่เป็นแบบนี้หรอก ว่าแต่นุ่น! แกไปรู้จักกับเด็กนั่นได้ยังไง”
“ก็น้องเอิร์ทกับฉันเราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน”
“หรอออ! ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบนี้จะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ด้วย”
“เอ้าาา!! แกนี่ก็...”
“จ้าาา!! ”
หญิงสาวทั้ง4คนเดินคุยกันมาตามหลังบุคคลที่ตนทะเลาะด้วยจนมาถึงโรงอาหาร เสียงพูดคุยกันของนักเรียนในโรงอาหารพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ
หญิงสาวทั้ง4คนก็เดินแยกกันไปซื้ออาหารที่ตนจะทานในเที่ยงนี้
ไม่รู้บังเอิญหรือเปล่านะ! ฉันกับอีเด็กสภานักเรียนคนเมื่อกี้ดันมาซื้ออาหารร้านเดียวกัน และที่โชคร้ายกว่านั้นคือดันซื้อเมนูเดียวกันอีก
“เจอกันอีกแล้วนะคะ”
“เฮ้ยยย!! ...ร้านอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมากินร้านเดียวกันกับฉันด้วยวะเนี้ยย..!! ”
หญิงสาวอุทานร้องเสียงหลงตกใจที่อยู่ๆก็มีใครเข้ามาทัก แล้วแอบพูดพึมพำเบาๆกับตัวเอง และเลี่ยงที่จะพูดกับผู้ทักทาย
“เอาอะไรคะ”
“ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กค่ะ!!! ไม่ใส่กระเทียมเจียวนะคะ”
ทั้งสองคนสั่งและพูดเมนูเดียวกันออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“บังเอิญจังเลยนะคะ”
“ใช่ค่ะ! บังเอิญจังเมนูเดียวกันด้วย”
“ได้แล้วค่ะ! ”
“นี่ค่ะ30บาท..แล้วถ้าพรุ่งนี้พี่ใส่ถุงเท้ากับกระโปรงสั้นมากๆมาอีกละก็...”
“บ้า!! ”
“หนู! หนู!! ”
“คะ คะ นี่ค่ะ! ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวรับจานอาหารแล้วจ่ายเงินแม่ค้าก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะโรงอาหารของโรงเรียนกับเพื่อนของตน
“แม้งงง...! กวนประสาทฉิบหาย”
“อะไรวะ! ”
“ก็น้องเอิร์ทของแกสิอีนุ่น ไปซื้ออาหารร้านเดียวกันไม่พอ ยังสั่งแบบเดียวกันอีก แม้งงง..คอยดูนะจะแกล้งให้เข็ดเลยคอยดู”
หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงด้วยความใน
“นางร้ายยยยย!!! ”
“แล้วอีน้องเอิร์ทนั่นน่ะ เป็นคนยังไงวะ”
“นี่แกไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งโง่เนี้ยย! ”
“แค่ถามเฉยๆมาหาว่าฉันโง่อีก! ก็ได้วะ ฉันไม่รู้ถึงถามพวกแกไง”
“น้องเค้าก็..เป็นคนสวยหน้าตาก็ดีมีเสน่ห์ชวนหลงไหล ถ้าใครได้เป็นแฟนนะคงจะโชคดีไปตลอดชาติเลยแหละ”
“ตกนรกทั้งชาติล่ะสิไม่ว่า!! ”
“เอ้าอีนี่! ถึงภายนอกน้องเค้าจะดูกวนๆไปหน่อยนะ แต่จริงๆแล้วน้องเค้าเป็นคนน่ารักโรแมนติกน้าา..”
“แหวะะ..เลี่ยนว่ะ! ”
“งั้นไม่ต้องฟังเลยย”
“เฮ้ยย!! ฟัง ฟัง ฟัง ฟัง”
“ก็ด้ะะ..เห็นแบบเนี้ย! น้องเค้ามีคนมาตามจีบหลายคนนะเว้ยย..ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่น้องเค้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอก เพราะ..”
“เพราะว่าน้องเค้าไม่น่าจะชอบผู้ชาย แต่ผู้หญิงน่ะไม่แน่..เพราะส่วนมากน้องเอิร์ทมักจะพูดกับผู้หญิงที่มาจีบมากกว่า ส่วนพวกผู้ชายที่มาจีบนะน้อยมากกก..ที่จะได้คุย! แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นคบใครสักคน”
ถ้อยคำนั้นของนุ่นได้ขาดหายไปเมื่อถูกไวน์เพื่อนอีกคนชิงพูดไปเสียก่อน
“ดูๆไปนะ! ดูน้องเค้าจะสนใจแกอยู่ไม่น้อยนะ ยิ่งเป็นนิสัยแบบแกแล้วด้วย ขนาดฉันยังแอบปลื้มน้องเค้าอยู่ไม่น้อยเลย”
“ไม่มีทาง!! แล้วนิสัยแบบฉันแบบไหนวะ! ”
“ก็...ชอบเอาชนะ..ชอบความท้าทาย หยิ่ง ชอบเหวี่ยงวีนได้แทบทุกสถานการณ์ แล้วก็ทำตรงกันข้ามอะไรทำนองเนี้ยย! ”
“ห่า..หลอกด่ากู...!! ”
“พวกแกสามคนรีบกินดีกว่ามั้ย เย็นหมดเดี๋ยวก็บ่นไม่อร่อยกันอีกหรอก”
“จ้า..เพื่อนแพร”
พอพักเที่ยงเสร็จแล้วทั้งสี่คนก็พากันขึ้นเรียนไปตามปกติ พอทั้งสี่คนจะขึ้นอาคารก็เจอกับอีเด็กสภานักเรียนอีกครั้ง แต่คราวนี้เดินมาคนเดียว
“ว่าไงคะ รุ่นพี่..! ”
หญิงสาวสภานักเรียนยิ้มมุมปากทำหน้าเจ้าเล่ห์อย่างมีเล่ห์ในแล้วเดินผ่านหน้าเธอไป
“หึ!!! เชี้ยยย! ”
หญิงสาวตกใจแล้วหันหน้าไปทางอื่นที่ก่อนจะอุทานประโยคทิ้งท้าย
ตั้งแต่เจออีเด็กสภานักเรียนคนนี้มา ชีวิตของฉันก็เริ่มเปลี่ยนไป ต้องคอยวิ่งหนีมันแทบทุกเช้าอยู่ตลอด
Share :
Write comment