พูดเรื่องบวกเรียกโชคดี พูดเรื่องดีเรียกความสุข

คนเรามีอยู่ 2 ประเภทคือ พวกที่นึกภาวนาว่า “อยากเป็นแบบนี้!” แล้วทำตามนั้นทันทีจึงสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กับคนที่ไม่อาจทำสิ่งที่ปรารถนาให้เป็นจริงจึงต้องใช้ชีวิตอย่างคับข้องใจทุกวี่วัน

ความแตกต่างระหว่างคน 2 ประเภทนี้ อันที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับถ้อยคำที่พวกเขาใช้กันเป็นประจำนั่นเอง

ที่ญี่ปุ่นมีคำว่า “โคะโตะดะมะ ” แสดงถึงความเชื่อแต่โบราณว่าในถ้อยคำมีจิตวิญญาณสถิตอยู่ ซึ่งหมายความว่าในคำพูดมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของคนเราได้ แต่คนมากมายกลับไม่ทราบถึงเรื่องนั้น และไม่เคยสนใจคำพูดที่ตนใช้ในยามปกติเลย

พลังของคำพูดยิ่งใหญ่จนเกินหยั่งวัด ผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ต่างรับรู้ในเรื่องนี้ดี เพราะเหตุนี้เอง พวกเขาถึงระมัดระวังการใช้คำพูดของตนเป็นอย่างมาก

กล่าวคือ จะพยายามใช้ถ้อยคำที่ทำให้สภาพจิตใจเป็นไปในทางบวก ไม่ใช้ถ้อยคำเชิงลบซึ่งดึงเอาสิ่งไม่ดีเข้าหาตัว จากนั้นเส้นทางแห่งความสำเร็จจะเปิดทางให้แก่พวกเขาเอง

คนที่ใช้ถ้อยคำเชิงบวกเยอะๆ และทำให้สภาพจิตใจอยู่ในภาวะบวก จะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาหา ส่วนคนที่ใช้แต่ถ้อยคำเชิงลบก็จะมีแต่ดึงดูดเรื่องไม่ดีเข้ามาแทน

สรุปแล้ว ถ้าอยากทำให้ชีวิตของตนเองดำเนินไปในทางที่ดี เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเป็นพิเศษ แต่ทางลัดอยู่ที่การลองหันมาใส่ใจคำพูดที่ตนเองใช้อยู่ทุกวันนี่เอง

หนังสือเล่มนี้จะใช้มุมมองต่างๆ อธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจวิธีใช้ถ้อยคำเชิงบวกเพื่อชักนำชีวิตไปในทางที่ดีกว่าเดิม

ไม่ว่าจะเป็นเพราะขาดความมั่นใจในตนเอง เหนื่อยล้าเรื่องสัมพันธภาพ ทำงานติดขัด กลัดกลุ้มเรื่องความรัก ชีวิตคนเราต่างเต็มไปด้วยเรื่องทุกข์ใจเต็มไปหมด

ในเวลาแบบนั้น ผมอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นคำใบ้ให้ทุกท่านได้รู้ว่าควรใช้ถ้อยคำแบบไหนดี

เชื่อเถอะว่าตั้งแต่ตอนที่เปลี่ยนคำพูด ชีวิตคุณจะเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างแน่นอน