มาตรฐานการปฏิบัติการออกแบบและควบคุมการระเบิดหิน พ.ศ.2566

ด้วยเทคโนโลยีได้มีการเปลี่ยนแปลงในการใช้วัตถุระเบิดในงานวิศวกรรมและการพัฒนาเข้าสู่ยุคดิจิทัล มีการใช้สภาพมวลหินทางธรณีวิทยามาเป็นเงื่อนไขในการออกแบบการระเบิด การใช้เครื่องมืออุปกรณ์และซอฟต์แวร์ในการวัดประสิทธิภาพและประมวลผลในการระเบิดในด้าน การออกแบบ และวิเคราะห์ผลกระทบ ตลอดจนการวิจัยค้นคว้าหาวิธีการที่จะควบคุมการระเบิดให้การแตกหักของหินและผาหินหน้าหินที่เหลืออยู่ให้สอดคล้องกับการทำงานในโครงการทั้งทางด้านเหมืองแร่ โยธา และชลประทาน จึงเห็นว่า การจัดทำมาตรฐานปฏิบัติการออกแบบและควบคุมการระเบิดหิน  ซึ่งวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ยังไม่มีมาตรฐานนี้มาก่อน และตำราหรือมาตรฐานของไทยที่มีก่อนหน้านี้ สมควรที่จะปรับให้ทันสมัยขึ้น ประกอบกับประเทศไทยในยุคนี้ มีการใช้วัตถุระเบิดกันอย่างแพร่หลายในเหมืองหินเพื่ออุตสาหกรรม การทำเหมืองใต้ดิน และการทำอุโมงค์ในหินแข็งเพื่อใช้เป็นเส้นทางคมนาคมทางรถไฟ ทางรถยนต์ ตลอดจนอุโมงค์ผันน้ำ และในอนาคตอาจมีความจำเป็นต้องใช้วัตถุระเบิดในวิศวกรรมการรื้อถอน (Demolition Blasting) เพื่อช่วยสนับสนุนงานวิศวกรรมโยธา ดังนั้นจึงเห็นว่ามาตรฐานนี้จะใช้เป็นแนวทางปฏิบัติของวิศวกรเหมืองแร่ โยธา และชลประทาน รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง และมีประโยชน์ต่อการพัฒนาอาชีพวิศวกรรมเป็นอย่างมาก

     การจัดทำมาตรฐานปฏิบัติการออกแบบและควบคุมการระเบิดหิน นับวันมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการทำเหมืองแร่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นการทำเหมืองหินผิวดิน ที่ต้องมีการใช้วัตถุระเบิดในอุตสาหกรรมผลิตหินและแร่ นอกจากนี้มีการใช้วัตถุระเบิดในงานโยธาและงานชลประทาน ในการสร้างอุโมงค์ผ่านชั้นหินหรือกิจกรรมทางงานวิศวกรรมฐานราก การใช้วัตถุระเบิดในทางวิศวกรรม ซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ผู้ใช้งานจึงต้องมีความรู้ความชำนาญ และปฏิบัติงานอย่างมีมาตรฐาน เป็นแนวทางใช้ปฏิบัติและป้องกันการหลงลืมบางรายการและบางประเด็น ที่อาจกระทบต่อประสิทธิภาพ ต้นทุนการผลิต มีความปลอดภัย รักษาสิ่งแวดล้อม และป้องกันผลกระทบต่อสังคม