ราคารวม : ฿ 0.00
(เดินทางระหว่าง 21-22 ธันวาคม 2561)
By: รณยุทธ์ จิตรดอน
เชียงราย ดินแดนแห่งขุนเขา ป่าไม้ สายน้ำ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โบราณสถาน วัดวาอารามอันงดงาม มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,500 ปี ตั้งแต่ หิรัญนครเงินยางเชียงแสน หรือ โยนกนาคนคร ราชธานีก่อน อาณาจักรล้านนา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ทั้งไทยใหญ่ ไทเขิน ไทลื้อจากสิบสองปันนา ตลอดจนชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่น อาข่า ลาหู่ หรือ มูเซอ
ชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของ พระตำหนักดอยตุง ที่สร้างขึ้นจากผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมล้านนาและบ้านพื้นเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ พร้อม สวนแม่ฟ้าหลวง สวนดอกไม้สีสันสวยงาม
และจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงเกิด โครงการพัฒนาดอยตุง เป็นแหล่งเรียนรู้งานฝีมือและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวเขาบนดอยตุง ซึ่งประกอบไปด้วย ชาวเขาเผ่าอาข่า ลาหู่ จีนฮ่อ ไทยใหญ่ และ ไทลื้อ ทั้งยังอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของชาวไทยภูเขาให้คงอยู่ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอีกแห่งหนึ่งของเชียงราย
และระหว่างต้นเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมกราคมของทุกปี จะได้สัมผัสวัฒนธรรม 6 ชนเผ่า ในงาน เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ชิมอาหาร อุดหนุนผลิตภัณฑ์ ชมการแสดงของชนเผ่า และทำเวิร์คช้อปหลากหลาย
วนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน หรือถ้ำหลวงเชียงราย ณ วันนี้ ได้กลายเป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้ที่เดินทางมาเชียงรายจะต้องแวะ
จุดเหนือสุดแดนสยาม แม่สาย ช้อปปิ้งของฝาก ของพื้นเมือง ตลาดแม่สาย
ชมทิวทัศน์สามประเทศ ไทย ลาว เมียนมาร์ สามเหลี่ยมทองคำ ไหว้ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน ขึ้นดอยชมพระธาตุและวิหารอายุกว่าพันปีที่ พระธาตุภูเข้า
นมัสการพระพุทธรูปโบราณ หลวงพ่อผาเงา ชมสถาปัตยกรรมอันงดงามแบบล้านนาของสิ่งปลูกสร้างมากมาย ภายใน วัดพระธาตุผาเงา
นั่งรถรางชม เมืองโบราณเชียงแสน ตามรอยอาณาจักรล้านนายุคแรกเริ่ม ชมวัดสำคัญในอดีตของราชธานี ภายในกำแพงเมือง เช่น วัดเจดีย์หลวง วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงแสนในครั้งนั้น วัดป่าสัก และภายนอกกำแพงเมือง เช่น วัดพระธาตุจอมกิตติ กราบพระบรมธาตุเจดีย์อายุกว่าพันปี
เดินทางกลับเข้าสู่เมืองเชียงราย ไปนมัสการพระแก้วมรกตจำลอง วัดพระแก้ว เชียงราย สถานที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกตนานถึง 45 ปี ระหว่างพ.ศ.1934 – 1979 ก่อนถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดพระแก้วดอนเต้า ลำปาง และสถานที่อื่นๆ จนกระทั่งสุดท้ายมายังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร
ชมสถาปัตยกรรมแบบล้านนาและจีนผสมผสานอย่างลงตัว วิจิตร งดงาม ณ วัดห้วยปลากั้ง ชมทัศนียภาพเมืองเชียงรายจากภายในองค์ เจ้าแม่กวนอิม สูง 69 เมตร สามารถขึ้นลิฟท์ไปชมวิวบนชั้น 22-23 ได้
ชมไร่ชา ผัก ผลไม้ ดอกไม้เมืองหนาวบนพื้นที่กว่า 8,000 พันไร่ โอบล้อมด้วยภูเขา ณ ไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีรถบริการพาชมภายในไร่ด้วยค่าบริการเพียง 100 บาทต่อท่าน มีศูนย์กีฬาและสันทนาการที่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ปั่นจักรยาน โหนสลิง ปืนผา และแอดเวนเจอร์โรปคอร์ส นอกจากนี้ยังมีร้านบริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีร้านขายของที่ระลึกและของฝากจากผลิตภัณฑ์สดใหม่จากไร่แห่งนี้
วัดร่องขุ่น อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องไปเยือนเมื่อไปเชียงราย อลังการด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลปะที่เต็มไปด้วยลวดลายอ่อนช้อย ประณีต ด้วยฝีมือของศิลปินแห่งชาติ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ไร่เชิญตะวัน ศูนย์วิปัสสนาโดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) บรรยากาศภายในร่มรื่น ทัศนียภาพสวยงาม พื้นที่กว้างขวาง มีหอศิลป์ ศิลปะกลางแจ้ง แปลงพืชผักอินทรีย์ ให้เยี่ยมชม มีการจัดอบรมหลักสูตรสมาธิภาวนาทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศในระยะสั้น 3 วัน และ 5 วัน จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นทั้งแหล่งธรรมะ ศิลปะ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
พะเยา เมืองสงบเงียบ แต่มีวัดวาอารามอันงดงาม มีศิลปวัฒนธรรม วิถีชาวชนเผ่าที่หลากหลาย เช่น ไทลื้อ ม้ง เย้า และไทยใหญ่ รวมถึง ประเพณีแบบล้านนา ที่สืบทอดมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
กว๊านพะเยา บึงน้ำขนาดใหญ่รูปพระจันทร์เสี้ยว เกิดจากน้ำจากลำห้วยต่างๆ ถึง 18 สาย ไหลลงมารวมกันเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ มีพันธุ์ปลาน้ำจืดถึง 45 ชนิด ในฤดูฝนเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไม่ให้น้ำท่วมเรือกสวนไร่นา ในฤดูแล้งก็เป็นแหล่งน้ำแก่เกษตรกร อีกทั้งยังมีทัศนียภาพสวยงาม จึงเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็นที่สวยงาม และมีประเพณีหนึ่งเดียวในโลก คือ ประเพณีเวียนเทียนกลางน้ำ ในวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งเปลี่ยนจากการเดินเวียนเทียนรอบพระอุโบสถมาเป็นการพายเรือเวียนเทียน
บริเวณริมกว๊านพะเยา จากอุทยานการเรียนรู้ไปทางทิศเหนือ ยังเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองพะเยา คือ วัดศรีโคมคำ สักการะพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนที่มีใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของอาณาจักรล้านนา ซึ่งมิใช่เป็นเพียงพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ยังถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของอาณาจักรล้านนาด้วย ในวันเพ็ญเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติแบบล้านนา (ประมาณเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม) จะมีการจัดงานไหว้พระเจ้าตนหลวง เรียกว่า ประเพณีแปดเป็งไหว้สาปูจาพระเจ้าตนหลวง
และบริเวณเนินเขาเหนือกว๊าน มีวัดที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง คือ วัดอนาลโยทิพยาราม นมัสการพระหมื่นปีและพระพุทธรูปปางต่างๆ ชมสถาปัตยกรรมวิจิตรงดงามของสิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก และสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย รวมทั้งชมทัศนียภาพกว๊านพะเยาจากยอดดอย
Share :
Write comment