ตอนที่ 3 : Chapter 2: แนวคิดพื้นฐานของ AI

Chapter 2: แนวคิดพื้นฐานของ AI

ในบทแรก เราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติและการพัฒนาของ AI มาแล้ว ในบทนี้เราจะลงลึกไปในแนวคิดพื้นฐานของ AI ว่า AI ทำงานอย่างไร ประเภทของ AI มีอะไรบ้าง และมันแตกต่างกันอย่างไรกับเทคโนโลยีทั่วไป เราจะยกตัวอย่างงานวิจัยที่สำคัญเพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมของการพัฒนา AI ในเชิงวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น

2.1 การทำงานของ AI ในระดับพื้นฐาน

AI ทำงานโดยการเลียนแบบกระบวนการคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ แต่แทนที่จะมีสมองจริงๆ AI ใช้ชุดคำสั่งทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อัลกอริทึม (Algorithm) เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมา แล้วตัดสินใจหรือดำเนินการตามข้อมูลนั้นอย่างอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น การแนะนำภาพยนตร์ใน Netflix หรือการคัดกรองสแปมในอีเมล ล้วนเป็นผลลัพธ์จากการทำงานของ AI

ในงานวิจัยของ John McCarthy หนึ่งในผู้บุกเบิก AI และผู้ที่บัญญัติคำว่า "Artificial Intelligence" ในปี 1956 เขาได้อธิบายแนวคิดของการสร้างเครื่องจักรที่สามารถประมวลผลข้อมูลเชิงตรรกะเหมือนมนุษย์ โดยใช้กฎและความรู้เชิงสัญลักษณ์เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน นี่เป็นแนวคิดพื้นฐานของการพัฒนา AI ในยุคแรกๆ

อีกหนึ่งตัวอย่างคืออัลกอริทึมที่ใช้ในการประมวลผลภาษา หรือที่เรียกว่า Natural Language Processing (NLP) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ AI ใช้ในการเข้าใจภาษามนุษย์ งานวิจัยในปี 2018 ของ OpenAI ได้พัฒนาโมเดล GPT (Generative Pretrained Transformer) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถเขียนและเข้าใจข้อความในภาษาธรรมชาติ โมเดลนี้ได้รับความนิยมและพัฒนาไปเป็นพื้นฐานสำหรับหลายแอปพลิเคชัน AI ในปัจจุบัน เช่น Chatbots และการแปลภาษาอัตโนมัติ

2.2 ประเภทของ AI

AI สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและการตัดสินใจ โดยแบ่งเป็น 2 มุมมองหลักคือ

การแบ่งประเภทตามระดับความฉลาดของ AI

  • Narrow AI (ปัญญาประดิษฐ์เฉพาะทาง): AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น ระบบจดจำใบหน้า หรือการค้นหาผลลัพธ์ใน Google ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Siri และ Alexa ซึ่งสามารถตอบสนองคำสั่งพื้นฐานได้ แต่ไม่สามารถทำงานนอกเหนือจากที่ถูกโปรแกรมไว้
  • General AI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป): AI ที่สามารถทำงานได้หลากหลายเหมือนมนุษย์ โดยสามารถเรียนรู้และปรับตัวตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการพัฒนา AI ในระดับนี้ ตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์ที่เราเห็น AI ที่มีความสามารถทำงานทุกอย่างได้เหมือนมนุษย์ เช่น AI ในหนังเรื่อง Ex Machina แต่ในโลกความจริง AI แบบนี้ยังคงเป็นแนวคิดในงานวิจัยอยู่
  • Superintelligent AI (ปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะสูงสุด): เป็น AI ที่มีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความคิดสร้างสรรค์ การแก้ไขปัญหาทางเทคนิค หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ปัจจุบันยังไม่มีการพัฒนา AI ที่มีระดับนี้ และยังเป็นที่ถกเถียงว่าควรหรือไม่ควรพัฒนา AI ในระดับนี้

การแบ่งประเภทตามการทำงาน

  • Reactive Machines (AI ที่มีปฏิกิริยาเท่านั้น): AI ประเภทนี้ไม่มีความสามารถในการเรียนรู้จากประสบการณ์ แต่จะตอบสนองตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ตัวอย่างเช่น Deep Blue คอมพิวเตอร์ที่เอาชนะแชมป์หมากรุกโลกในปี 1997
  • Limited Memory (AI ที่มีความจำจำกัด): AI ประเภทนี้สามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่ผ่านมาได้ เช่น ระบบการขับรถอัตโนมัติของ Tesla ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจากกล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจในการขับขี่
  • Theory of Mind (AI ที่เข้าใจอารมณ์และสังคม): AI ประเภทนี้สามารถเข้าใจและตอบสนองต่ออารมณ์และสังคมของมนุษย์ได้ เช่น การพัฒนา Chatbots ที่สามารถตอบสนองตามอารมณ์ของผู้ใช้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยังอยู่ในงานวิจัย
  • Self-Aware AI (AI ที่มีความตระหนักรู้ในตนเอง): AI ประเภทนี้จะมีความสามารถในการตระหนักรู้ถึงตนเองและสภาพแวดล้อม ซึ่งยังคงเป็นเพียงแนวคิดในปัจจุบัน

2.3 ตัวอย่างงานวิจัยที่สำคัญใน AI

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยที่เกี่ยวกับ AI มากมายที่เปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามองเห็นและใช้งาน AI ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางงานวิจัยที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนา AI:

งานวิจัยของ Yann LeCun เกี่ยวกับ Convolutional Neural Networks (CNNs)
CNNs เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมของเครือข่ายประสาทเทียมที่ถูกนำมาใช้ในการรู้จำภาพ งานวิจัยของ Yann LeCun ในช่วงต้นปี 1990s ได้วางรากฐานให้กับการพัฒนาระบบการรู้จำภาพ เช่น การจดจำใบหน้าในสมาร์ทโฟน หรือการประมวลผลภาพทางการแพทย์ งานวิจัยนี้ยังถูกใช้อย่างแพร่หลายในระบบการตรวจจับวัตถุในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

AlphaFold ของ DeepMind
AlphaFold เป็น AI ที่ถูกพัฒนาโดย DeepMind เพื่อแก้ปัญหาการทำนายโครงสร้างของโปรตีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่ท้าทายที่สุดในวงการวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ผลงานของ AlphaFold ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature ในปี 2020 และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนายาและการศึกษาโรคต่างๆ

GPT-3 ของ OpenAI
GPT-3 (Generative Pretrained Transformer 3) เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการสร้างข้อความที่คล้ายกับภาษามนุษย์มากที่สุด งานวิจัยของ GPT-3 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำงานหลายด้าน เช่น การเขียนบทความ การแปลภาษา และการสนทนาอัตโนมัติ GPT-3 ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการเทคโนโลยีและนำไปสู่การพัฒนาแอปพลิเคชันหลากหลาย

2.4 AI และการแก้ปัญหาในชีวิตจริง

AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดเชิงทฤษฎี แต่ยังถูกนำมาใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริงในหลายด้าน ตัวอย่างเช่น:

  • การแพทย์: AI ถูกใช้ในการวินิจฉัยโรค เช่น การตรวจจับมะเร็งในระยะแรกจากภาพเอ็กซ์เรย์ หรือการพัฒนายาที่ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล
  • ธุรกิจ: AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและทำการตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น เช่น การพยากรณ์ยอดขาย การจัดการสินค้าคงคลัง หรือการตลาดเฉพาะบุคคล
  • การขนส่ง: AI ถูกนำมาใช้ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถยนต์ ซึ่งช่วยลดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

สรุปบทที่ 2: ในบทนี้เราได้ทำความเข้าใจถึงแนวคิดพื้นฐานของ AI ไม่ว่าจะเป็นประเภทต่างๆ ของ AI และการทำงานในระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานวิจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนา AI ในปัจจุบัน บทต่อไปเราจะมุ่งเน้นไปที่ Machine Learning ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำ


อ่าน : 0

แชร์ :


เขียนความคิดเห็น

😀
😃
😄
😁
😆
😅
🤣
😂
🙂
🙃
😉
😊
😇
🥰
😍
🤩
😘
😗
😚
😙
😋
😛
😜
🤪
😝
🤑
🤗
🤭
🤫
🤔
🤐
🤨
😐
😑
😶
😏
😒
🙄
😬
🤥
😌
😔
😪
🤤
😴
😷
🤒
🤕
🤢
🤮
🤧
🥵
🥶
🥴
😵
🤯
🤠
🥳
😎
🤓
🧐
😕
😟
🙁
☹️
😮
😯
😲
😳
🥺
😦
😧
😨
😰
😥
😢
😭
😱
😖
😣
😞
😓
😩
😫
🥱
😤
😡
😠
🤬
😈
👿
💀
☠️
💩
🤡
👹
👺
👻
👽
👾
🤖
😺
😸
😹
😻
😼
😽
🙀
😿
😾
🙈
🙉
🙊
💋
💌
💘
💝
💖
💗
💓
💞
💕
💟
❣️
💔
❤️
🧡
💛
💚
💙
💜
🤎
🖤
🤍
💯
💢
💥
💫
💦
💨
🕳️
🕳
💣
💬
👁️‍🗨️
👁‍🗨️
👁️‍🗨
👁‍🗨
🗨️
🗨
🗯️
🗯
💭
💤

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น
รวมถึงให้เราสามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาที่เหมาะสมให้กับคุณอย่างเป็นส่วนตัว