ราคารวม : ฿ 0.00
ชายสองคนยืนต่อสู้กันอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาอย่างหนัก โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย
บ้างก็เปลี่ยนฝ่ายต่างฝ่ายต่างล้มลุกคลุกคลานบาดเจ็บจากการต่อสู้ จนกระทั่งชายคนหนึ่งเล่นที่เผลอออกมาโดยเอาปืนออกมากะจะยิงอีกฝ่าย จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากปืนกันไปมา
ปังงงง!!
เสียงของปืนถูกลั่นไกออกมาเสียงดังสนั่น ชายคนหนึ่งค่อยๆทรุดตัวลงวางมือออกจากปืน ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นถนนพร้อมกับเลือดที่ไหลอาบออกมาจากร่างกายเต็มพื้นถนนปะปนกับสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาต่อเนื่องไม่ขาดสายเป็นจำนวนมาก จนสีของเลือดนั้นค่อยๆจางเลือนลงไปตามสายฝนที่ตกลงมาชำระล้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสีของความเป็นเลือดไว้ให้เห็นอยู่
1 ปีต่อมา..
สนามบิน..
หญิงสาวร่างสูงเดินออกมาจากสนามบินโดยมีลูกน้องเดินติดตามคุ้มกันประกบอยู่รอบกายทั้งด้านข้างด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อให้เธอปลอดภัยจากผู้คนแล้วสิ่งรอบข้าง
“คุณหนูครับ!”
เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินอยู่ด้านหลังซ้ายมือเธอกล่าวขึ้น
“ว่าไง..”
หญิงสาวตอบรับคำ
“ผมคิดว่าผมรู้สาเหตุที่ทำให้นายใหญ่ต้องเสียชีวิตแล้วครับ”
“เดี๋ยวไปคุยกันในรถ..”
สิ้นคำนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกจนเดินไปที่รถตู้คันสีดำขัดและขึ้นรถไปนั่งเพื่อเดินทางออกจากสนามบิน
“คนที่เป็นต้นเหตุให้นายใหญ่ต้องตายคือชา ฮเยนาครับ”
“ชา ฮเยนางั้นหรอ..นายมีรูปเธอมั้ย”
เธอกล่าวเสียงแข็งแล้วกล่าวถามลูกร้องของตน
“ครับบ! มีครับ..เธอเป็นนักร้องนักแสดง รูปเธอหาได้ไม่ยาก”
ยื่นโทรศัพท์ให้กับผู้เป็นเจ้านายดูแล้วเธอก็จ้องหน้าจอโทรศัพท์ตาแข็ง
“สาเหตุล่ะ!!”
กล่าวถามเสียงแข็ง
“เพราะเธอ..มีคนคิดจะฆ่าเธอ นายใหญ่จึงตามไปช่วยเธอ ฉันต้องตายแทนเธอ”
“แล้วทำไมถึงไม่บอกฉันตั้งแต่ตอนนั้น มาบอกอะไรตอนที่พี่ชายฉันตายไปแล้วตั้งปีนึง”
“พวกเราคิดว่าควรจะให้คุณหนูเรียนจบก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยบอกเรื่องนี้ เพราะไม่งั้นคุณหนูคงไม่เรียนต่อจนจบแน่”
เสียงชายหนุ่มอีกคนกล่าวขึ้นมา
“นับจากวันนี้ให้เรียกฉันว่านายใหญ่ ฉันจะรับตำแหน่งทุกอย่างแทนพี่ชายฉันเอง”
เธอกล่าวพร้อมในมือก็กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น
“ครับคุณหนู..”
ชายหนุ่มคนเดิมตอบรับ
“เมื่อกี้ฉันพึ่งพูดว่าอะไรนะ”
“ครับ!! นายใหญ่..!”
“ครับ!”
“ผู้หญิงคนนี้อยู่ค่ายอะไร”
“YJSDครับ!!”
“หื้มม!! จริงดิ..”
เธอกล่าวอุทานอย่างเหลือเชื่อ
“ค่ายนี้ฉันถือหุ้นอยู่กว่าสี่สิบสามเปอร์เซ็นต์อยู่นี่นา ถ้างั้นก็เป็นเรื่องง่ายเลยล่ะสิ พี่จะทำให้ผู้หญิงคนนี้มา..กับเรา”
.
.
.
เช้าวันต่อมา..
07:21 น.
ปัง! ปังง!! ปัง! ปังงง!! ปังง!!! ปัง!
หญิงสาวร่างสูงยืนเล็งปืนไปยังเป้าหมายแล้วกดลั่นไกยิงออกไปจนเกิดเสียงดังขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีใครแตกตื่นกับเสียงปืนที่ดังสนั่นแต่อย่างใด
เมื่อเธอได้ยินจนลูกกระสุนหมดแม็กเธอก็วางปืนลงจากมือ
“ว่าไง ได้ตัวเธอมามั้ย”
“ทางค่ายเพลงไม่ยอมเลยครับ..เพราะไม่เชื่อว่าเป็นคำสั่งของนายใหญ่”
เขายืนตอบคำถามพร้อมกับหยิบปืนขึ้นมาใส่ลูกกระสุนให้กับผู้เป็นนาย
“ส่งโทรศัพท์นายมา..บอกคัง แทวอนส่งโทรศัพท์ให้เขาด้วย”
“ครับบ..!”
.
“เจ้านายผมจะคุยกับคุณ..คุณชเว”
หยิบยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
“คุณชเว..ถ้าคุณไม่ให้ยัยนั่นกับฉันคุณเตรียมตัวถูกปลดออกจากประธานได้เลย อย่าลืมนะหุ้นฉันมีมากกว่าคุณ”
“คุณ..คุณพัค คือว่า...ผมไม่คิดว่าจะเป็นคุณจริงๆ ขอโทษด้วยครับ”
ชายวัยกลางคนที่คุยอยู่ในสายเมื่อรู้ว่าคนปลายสายนั้นเป็นใครก็รีบกล่าวคำขอโทษอย่างเร็วควัน
“ฉันเปลี่ยนใจละ ผู้หญิงคนนั้นเธอมีงานอะไรถอดเธอออกให้หมด ทั้งงานละครงานเพลงงานอีเวนต์ต้องไม่มี เพราะฉันต้องการตัวเธอ..”
เธอกรอกเสียงเข้มลงใส่มือถือสายตาเฉียบขาด
“ไม่ได้นะครับคุณพัค ถ้าทำแบบนั้นค่ายละครในเครือของเราเดือดร้อนแน่ เราถ่ายได้เกือบครึ่งเรื่องแล้ว ต้องมีความเสียหายมากแน่ๆ ทั้งค่าตัวของชา ฮเยนาเราต้องเสียเงินเปล่าอีกนะครับ”
“เรื่องของคุณ..ไม่เกี่ยวกับฉัน หรือว่าคุณอยากโดนถอดจริงๆก็ได้นะ”
กดวางสายแล้ววางปืนไว้บนโต๊ะกดวางสายแล้ววางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบปืนพกสั้นขึ้นมา แล้วชักปืนเล็งไปยังเป้าหมายข้างหน้า
ปัง! ปัง!! ปัง! ปัง! ปัง!! ปัง!! ปัง! ปัง!
เป้าหมายที่ถูกยิงไปจนครบแปดนัดแล้ว ลูกน้องของเธอก็ได้นำแผ่นเป้าที่เธอยิงนั้นวิ่งเข้ามาให้เธอดู
แต่ปรากฏว่าเป้าที่ถูกยิงไปนั้นไม่มีส่วนใดเลยที่ถูกยิงหรือไม่มีรอยลูกกระสุนที่ทะลุผ่านแม้แต่รูเดียว นอกจากบริเวณส่วนของศีรษะที่มีรอยกระสุนปืนยิงทะลุครบทั้งแปดนัด
วันต่อมา..
ร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งก้าวเท้าลงจากรถเดินเข้าไปในบริษัทเพลงโดยที่มีการ์ดคอยเดินคุ้มกันความปลอดภัยให้อยู่รอบกาย จนกระทั่งเธอเดินขึ้นไปถึงห้องทำงานของประธานบริหารสูงสุด
“ชา ฮเยนามาถึงแล้วใช่มั้ย”
“ชา ฮเยนากำลังขึ้นมาพบท่านประธานครับ”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“นั่นไงครับ..มาถึงพอดี”
กล่าวจบหญิงสาวร่างเล็กก็เปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง
“ท่านประธานสั่งเลิกกอง แล้วเรียกตัวฉันมาทำไมคะ”
“ผมจะยกเลิกการถ่ายทำละคร อีเวนต์..งานเพลงและงานอื่นๆของคุณทั้งหมด”
“นั่นมันงานฉันนะคะ ท่านประธานทำแบบนี้ทำไม”
“ผมไม่ได้อยากจะทำ..แต่มีคนบีบบังคับให้ผมทำ แล้วถ้าผมไม่ทำตาม...”
“คุณเป็นท่านประธานของที่นี่นะคะ แล้วใครเค้าจะบังคับท่านประธานได้”
“ใช่!! ผมเป็นประธานของYJSDก็จริง..แต่ผมไม่ใช่เจ้าของที่นี่ เจ้าของที่นี่ตัวจริงสั่งให้ผมถอดคุณออกจากงานทุกอย่าง ไม่งั้นเขาจะปลดผมออกจากตำแหน่ง”
“ท่านประธานไม่ใช่....!!”
มองหน้าท่านประธาน
“เชิญคุณชา ฮเยนาไปกับผมด้วยครับ”
“คุณเป็นใคร..ถึงได้มาบอกฉันให้ไปกับคุณ”
หันไปมองหน้าและถามชายหนุ่มร่างสูงอีกคน
“ก็เป็นเจ้าของตัวจริงของที่นี่ไง”
คำกล่าวนั้นเป็นของหญิงสาวร่างสูงที่เปิดประตูก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้อีกคน
“พัค....ชอนอา..!!”
“รู้จักฉันรึไง..ถึงได้รู้จักชื่อฉันน่ะ”
“เธอจำฉะ...!!”
“หุบปากของเธอแล้วไปกับฉัน”
เธอพูดยังไม่ทันจะจบแต่ก็ถูกชิงตัดบทพูดโดยหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาเยือนใหม่ไปเสียก่อน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอเป็นเจ้าของที่นี่นั่นหรอ”
“อย่าทำตัวเหมือนรู้จักฉัน เพราะฉันไม่รู้จักเธอ..”
“ยัยนี่ฉันขอก็แล้วกันนะ คัง แทวอนถ้าตัวผู้หญิงคนนี้ออกไป”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอเป็นเจ้าของที่นี่งั้นหรอ”
“อย่าทำตัวเหมือนรู้จักฉัน เพราะฉันไม่รู้จักเธอ..”
“ยัยนี่ฉันขอก็แล้วกันนะ คัง แทวอนพาตัวผู้หญิงคนนี้ออกไป”
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานทำได้แค่มองด้วยความไม่พอใจและบ่ายหน้าหนีเพียงเท่านั้น เมื่อพัค ชอนอาสั่งให้ลูกน้องตัวเองพาตัวของชา ฮเยนาออกไป
“อย่าบ่ายหน้าหนี..อย่าทำหน้าแบบนี้สิ ฉันไม่ชอบนะคุณรู้มั้ย”
มองค้อนชายผู้นั้น
“ถ้าฉันเกิดไม่พอใจขึ้นมา..ฉันอาจจะมานั่งเก้าอี้ตัวนั้นแทนคุณก็ได้นะ แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา.....ปังง!! เพราะฉะนั้นอย่าทำให้ฉันไม่พอใจก็แล้วกัน”
ค้อนสายตามองอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะหันหลังเดินกลับออกไปจากห้องนี้ แล้วฉีกยิ้มมุมปากเบาๆอย่างสาสมใจ
แชร์ :
เขียนความคิดเห็น