ตอนที่ 1 : เหวนใต้ที่สุราษฎร์ นุ้ยหนุกจังเลยพี่บ่าว~~

ทริปปุบปับรับโชค โชคใหญ่มากๆ เพราะทั้งตลก สนุก หวาดเสียว และซึ้ง เรียกได้ว่า ครบ! ทุก! รส! แซ่บมากจ้ะแม่ J มาค่ะอย่าเสียเวลาเพราะเรื่องมันยาวววววว

จะเกริ่นต้นเรื่องมันก็เศร้า ถ้าอย่างนั้นวาร์ปไปตอนที่ FUN @ สุราษฎร์ธานีกันเลยดีกว่าค่า~ ไปจ้า~

เรื่องเล่าต่อไปนี้คือการไปอยู่ภาคใต้สามเดือน กับการเที่ยวทุกสุดสัปดาห์เป็นเวลา 3 weeks เพราะหลังจากนั้นเกิดโควิดระบาดรอบสองจ้ะแม่ อุแง้~

                                         

รสตลก : รสนี้เกิดขึ้นทุกที่ๆ ไปเลยค่ะ แต่ทีเด็ดก็ตอนที่พี่ที่ไปด้วยส่วนใหญ่เป็นสาวอีสาน มีเราคนเดียวนี่แหละเป็นเด็กกาญจน์ ‘เหน่อ’ มาเลยจ้ะแม่ เค้าว่ากันว่าอยู่กับใครนานๆ ก็จะเหมือนกับคนนั้น เหตุการณ์นี้พิสูจน์ได้ค่ะ ทริปแรกที่ไปเลยคือ ‘ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ฯ’ และไม่ใกล้ไม่ไกลคือ ‘แม่น้ำตาปี’ ที่จะมีสะพานแม่น้ำตาปี ซึ่ง highlight ของสะพานนี้จะต้องมานั่งกินลมชมสีสันของสะพานตอนกลางคืนค่ะ เพราะสะพานแม่น้ำตาปีจะเปลี่ยนสีสันและรูปร่างต่างๆ ซึ่งขอบอกเลยว่าสวยมากๆๆๆ ไหนๆ ก็ออกมาข้างนอกละจะมาดูสะพานเฉยๆ ได้ยังไง ก็นั่งรถ ‘ตุ๊กตุ๊ก’ (ซึ่งเป็นศัพท์ที่คนถิ่นเรียก ความจริงก็คือรถสองแถวขนาดเล็กกะทัดรัดนั่นเองค่ะ) ไปต่อกันที่ ‘ตลาดศาลเจ้า’ ที่ได้ข้าวยำกลับมากินที่โรงแรมเป็นอันจบทริปเล็กๆ เที่ยวใกล้ๆ กับโรงแรมไปก่อน และแล้วก็เข้าสู่โหมดตลกก่อนนอนที่ ‘เจ้เกด’ รูมเมทของเราที่เล่าให้ฟังว่า ‘ตอนที่พี่คุยกับแฟน แฟนทักว่าทำไมไปอยู่ใต้พูดเหน่อ’นี่ก็อ๋อทันทีเลยว่าเจ้เกดไม่ได้ติดจากไหนไกลเลย ก็ฉันน่ะสิ ฉันน่ะสิ 

รสสนุก : นิยามการเที่ยวที่สนุกของแต่ละคนต่างกันไปตามความชอบ ความสนุกของการที่ไปเที่ยวกับเจ้เกด เจ้ออมสิน และพี่ผึ้ง ก็คือ ‘การไปไหนไปกัน ไม่มีขัด ก็อย่างว่าแหละ คนศีลเสมอกัน แค่มองตาก็รู้ถึงใจแล้ว’ ทริปแรกที่ไปเที่ยวด้วยกันสี่คนคือ ‘ป่าต้นน้ำน้ำราด’ ประเดิมโดยการจับคู่พายเรือคายัค นี่เป็นครั้งแรกของการพายเรือของเราเลยค่ะ แน่นอนว่า ‘ท่าพายไม่เป็นท่าเลยค่ะ 555555555’ พายไปทีก็พายเข้าดงหนาม วิธีการกลับเรือก็คือพายไปติดข้างทางแล้วใช้ไม้พายปรับทิศเอา 55555 อย่างน้อยๆ ก็พายไปจนถึงเส้นชัยก็วกกลับ ขาไปพายเรือด้วยใจเต็มเปี่ยม ขากลับต้องให้น้องที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลลากเรือกลับ ต่อด้วยเล่นน้ำใสๆ สีฟ้าก่อนกลับ และขากลับนี่แหละค่ะที่ยังไม่ได้จองโรงแรมและแพลนว่าพรุ่งนี้ไปเที่ยวต่อที่ไหน ก็เลยเปิดทั้ง map และดูป้ายข้างทางจนเกือบเข้าโรงแรมม่านรูดแล้วมั้ยล่ะ 555 แต่สุดท้ายก็ได้ที่พักสำหรับคืนนั้นเป็นที่เรียบร้อยและปลอดภัยดีค่ะ

รสหวาดเสียว : ตอนไปพักโรงแรม Hillside Boutique Hotel เจ้เกดกับเราถูก Grab ป้ายยาว่าแถวๆ โรงแรมจะมีจุดชมผังเมืองสุราษฎร์ฯ ซึ่งถ้าได้ดูตอนกลางคืนจะสวยมาก โดนป้ายยาเบอร์ใหญ่ซะขนาดนี้ก็อยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง เจ้าของโรงแรมก็ทั้งใจดีและน่ารักให้ยืมมอเตอร์ไซค์ขับไป พอได้เห็นก็รู้สึกว่าสวยจริงๆ ค่ะ แต่อย่ามาดูตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนี้เลย เพราะไฟทางแทบจะไม่มีเลย อีกอย่างเราไม่ใช่คนถิ่นยังไม่ชำนาญเส้นทาง แนะนำว่าให้ดูตอนเช้าดีกว่านะคะ และเช้าวันต่อมาก็ไปทานอาหารเช้าที่ ‘บ้านบนเขา วิวสวย’ ตามชื่อเลยค่ะบ้านอยู่บนเขาและวิวก็สวยมากๆ มาให้ทันตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะดีมากๆ เลยค่ะ นับเป็นการเริ่มเช้าวันใหม่ที่ดีมากๆ เลยค่า~

รสซึ้ง : แม้จะได้ไปเที่ยวด้วยกันแค่สามสัปดาห์ กับระยะเวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันแค่สามเดือนเพราะต้องฝึกและอบรมด้วยกัน มันจะมีเพลงหนึ่งตอนที่เราไปเที่ยวด้วยกัน เราบอกพี่ๆ ว่าเราชอบเพลงนี้ กลายเป็นว่าการเดินทางวันนั้นเปิดเพลงนั้นเพลงเดียวเลย 555 แม้ว่าตอนนี้จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่เราได้ยินเพลงนี้จะนึกถึงความสนุกและความสุขที่ได้ไปกับพี่ๆ และเพื่อนๆ ทุกคนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีนะคะ 


อ่าน : 0

แชร์ :

เขียนความคิดเห็น